ซีรีย์ฝรั่ง Sex Education หลักสูตรเร่งรัก ซีซั่น 3 ชมได้ที่ Netflix

กดแชร์เบาๆที่นี่จ้า^^

ถ้าพูดถึงซีรีย์ฝรั่งที่ดังมาก ๆ ช่วงที่ Netflix เพิ่งเปิดตัวใหม่ ๆ ในบ้านเรา ซีรีย์ Sex Education ต้องติดอันดับอย่างแน่นอน เพราะการนำเสนอฉากรักอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเซ็นเซอร์ และยังนำเสนอได้แบบวิชาการจ๋า ทำให้คนที่เคยอคติว่ามีฉากวาบหวิว พอได้ลองดูจริง ๆ จะเห็นว่ามันไม่ใช่ซีรีย์ทะลึ่งหยาบโลน แต่สอนให้คนดูเปิดใจในเรื่องเซ็กส์ เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องน่าอายและไม่ควรปกปิดเด็กไม่ให้รู้ ควรมีการเปิดอกคุยกันมากขึ้นระหว่างครูกับนักเรียน ผู้ปกครองกับนักเรียน เพราะการไม่คุยกันทำให้เด็กไปทดลองกันเอง ทำให้มีความเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์และตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์มากกว่า ซีซั่น 1 Sex Education ได้พาเราไปศึกษาเรื่องปัญหาเรื่องเซ็กส์ที่ชอบไม่ตรงกันของคู่รัก ปัญหาเรื่องสุขภาพทางเพศของคนคนนั้น เรื่องการมีเซ็กส์โดยไม่ป้องกันจนท้องแล้วต้องไปทำแท้ง และการทำแท้งเป็นสิทธิในร่างกายของผู้หญิง ไม่ควรมีใครต้องมาตัดสินเธอ

จิลเลียน แอนเดอร์สัน รับบทเป็น ดร.จีน มิลเบิร์น นักบำบัดทางเพศและความสัมพันธ์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกชายวัยรุ่นชื่อโอทิส ตอนนี้จีนกำลังตั้งครรภ์อย่างยากลำบากในวัย 48 ปี และกำลังพยายามรีเทิร์นรักกับพ่อม่ายลูกติดอย่างยาค็อบ แต่ปัญหาคือลูกของพวกเขาเคยเป็นแฟนกันแต่ต้องมาอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน ท่ามกลางความไม่ลงรอยกันนี้ จีนกับยาค็อบจะประสานรอยร้าวในความสัมพันธ์ได้หรือไม่ และดูเหมือนโอล่าจะยังแค้นไม่หายที่จีนหักอกพ่อเธอจนพ่อเธอทำใจไม่ได้อยู่นาน
จิลเลียน แอนเดอร์สัน รับบทเป็น ดร.จีน มิลเบิร์น นักบำบัดทางเพศและความสัมพันธ์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกชายวัยรุ่นชื่อโอทิส ตอนนี้จีนกำลังตั้งครรภ์อย่างยากลำบากในวัย 48 ปี และกำลังพยายามรีเทิร์นรักกับพ่อม่ายลูกติดอย่างยาค็อบ แต่ปัญหาคือลูกของพวกเขาเคยเป็นแฟนกันแต่ต้องมาอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน ท่ามกลางความไม่ลงรอยกันนี้ จีนกับยาค็อบจะประสานรอยร้าวในความสัมพันธ์ได้หรือไม่ และดูเหมือนโอล่าจะยังแค้นไม่หายที่จีนหักอกพ่อเธอจนพ่อเธอทำใจไม่ได้อยู่นาน

เครดิตภาพจาก Sex Education

ในซีซั่น 2 จักรวาลของ Sex Education กว้างขึ้น เพราะมีการพูดถึงความต้องการทางเพศของผู้หญิงที่มักเป็นเรื่องที่ไม่ยอมรับเหมือนผู้ชาย ซีซั่น 1 Sex Education ถูกวิจารณ์ว่าพูดถึงปัญหาเซ็กส์ของผู้หญิงน้อยไป เพราะทุกปัญหาเป็นของผู้ชายถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่เราคิดว่าเน็ตฟลิกซ์คงตั้งใจวางให้เป็นแบบนี้ ภาคแรกพูดถึงเพศชายมากหน่อย เพราะต้องการแนะนำให้เรารู้จักตัวละคร อดัม เด็กที่มีปมชอบรังแกเอริคเพื่อนที่เป็นเกย์เพราะถูกพ่อทำร้ายร่างกาย โอทิส เด็กหนุ่มที่มีปมที่พ่อมีชู้ทำให้เขารู้สึกว่าการมีความรู้สึกทางเพศเป็นเรื่องผิดบาป เพราะเขาไม่อยากกลายเป็นเสือผู้หญิงเหมือนพ่อ และมีการพูดถึงความรักของผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQA+ และพูดถึงการมีเพศสัมพันธ์ของเกย์ที่ไม่เคยมีใครพูดถึงมาก่อนอย่างการทำแท้ง (การสวนล้างทวารหนัก) Sex Education ช่วยให้สังคมมองคนกลุ่มนี้อย่างเข้าใจ ไม่ว่าเพศไหนก็มีเพศสัมพันธ์ได้ปลอดภัยตราบใดที่ป้องกันด้วยการใส่ถุงยางอนามัย ทำให้คนที่ได้ดูเลิกโทษว่ากลุ่มเกย์เป็นกลุ่มที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ แต่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันต่างหาก

ชุติ กัตวา รับบทเป็น เอริค เพื่อนซี้ของโอทิสที่เป็น LGBTQA+ ที่มีบทบาทเด่นขโมยซีนมาตลอดตั้งแต่ซีซั่น 1 ถึงซีซั่น 2 ตอนนี้บทเอริคเด่นกว่าพระเอกนางเอกแล้วในซีซั่น 3 เพราะความรักของเธอกับอดัม กรอฟฟ์ มันหวานฉ่ำหัวใจในขณะที่พระนางยังงอน ๆ กันอยู่ เอริคอยากเปิดตัวกับครอบครัวของอดัมแต่อดัมยังไม่พร้อม ปัญหาของอดัมกับเอริคที่ดูเหมือนเรื่องเล็ก ๆ ให้อภัยกันกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่นำไปสู่จุดแตกหักของความสัมพันธ์เมื่อเอริคได้โอกาสห่างกับอดัมไปค้นพบตัวตนของตัวเองอีกซีกโลกหนึ่ง
ชุติ กัตวา รับบทเป็น เอริค เพื่อนซี้ของโอทิสที่เป็น LGBTQA+ ที่มีบทบาทเด่นขโมยซีนมาตลอดตั้งแต่ซีซั่น 1 ถึงซีซั่น 2 ตอนนี้บทเอริคเด่นกว่าพระเอกนางเอกแล้วในซีซั่น 3 เพราะความรักของเธอกับอดัม กรอฟฟ์ มันหวานฉ่ำหัวใจในขณะที่พระนางยังงอน ๆ กันอยู่ เอริคอยากเปิดตัวกับครอบครัวของอดัมแต่อดัมยังไม่พร้อม ปัญหาของอดัมกับเอริคที่ดูเหมือนเรื่องเล็ก ๆ ให้อภัยกันกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่นำไปสู่จุดแตกหักของความสัมพันธ์เมื่อเอริคได้โอกาสห่างกับอดัมไปค้นพบตัวตนของตัวเองอีกซีกโลกหนึ่ง

เครดิตภาพจาก Sex Education


ในซีซั่น 3 นี้ได้มาสานต่อเรื่องราวในซีซั่น 2 ที่ทิ้งปมให้ค้างคาเรื่องเมฟกับโอทิส อย่างที่เรารู้กันว่าครูใหญ่กรอฟฟ์ถูกไล่ออก กรอฟฟ์เป็นครูใหญ่ที่ร้ายกาจเหลือเกิน แต่ซีซั่น 3 กลับทำให้เราเห็นใจกรอฟฟ์เพราะได้เห็นอดีตวัยเด็กที่ขมขื่นของเขา กรอฟฟ์ถูกพ่อสอนว่าลูกผู้ชายห้ามร้องไห้ เขาเลยเป็นคนที่ไม่กล้าบอกความรู้สึกตัวเอง และไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรแล้วมีความสุข ส่วนครูใหญ่คนใหม่ชื่อ โฮป เป็นคนหัวโบราณ ถึงจะยังสาว อายุ 30 ปลาย ๆ แต่เธอก็เข้มงวดกับนักเรียนด้วยการบังคับให้นักเรียนต้องใส่ยูนิฟอร์ม ชายหญิงต้องเรียนเพศศึกษาแยกห้องกันแถมเรียนหลักสูตรแบบโบราณคร่ำครึ หลักสูตรที่สอนให้เด็กหญิงกลัวการคลอดลูกและให้งดการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เหมือนเป็นการผลักภาระการมีลูกให้ผู้หญิงฝ่ายเดียว ส่วนในคลาสของผู้ชายก็มีการเหยียดเพศ สอนให้ผู้ชายเป็นชายแท้ ห้ามชอบเพศอื่นนอกจากเพศหญิง ไอเดียหลัก ๆ ของซีซั่นนี้จึงเป็นการต่อสู้ของนักเรียนหัวขบถกับคุณครูหัวโบราณที่ชอบตีกรอบให้นักเรียน จุดนี้ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยว้าว เพราะเรื่องการสู้ของนักเรียนกับครูเป็นเรื่องที่ซีรีย์เรื่องนี้ชอบเล่นมาตลอดในซีซั่น 1 และ 2 จนคนดูรู้สึกชินแล้ว ทั้งการแสดงละครเกี่ยวกับอวัยวะเพศชายและอวัยวะเพศหญิงที่เหมือนซีซั่น 2 อย่างกับแกะ แถมยังอลังการน้อยกว่า เรารู้สึกว่าเหมือนซีรีย์ Sex Education ไม่มีประเด็นใหม่ ๆ เรื่องเพศให้พูดถึงอีกแล้ว เพียงแต่ต้องทำซีซั่นออกมาเพื่อหาบทสรุปให้กับตัวละครทุกตัว

เอมมา แมคกี้ รับบทเป็น เมฟ ไวลีย์ สาวป็อปหัวกะทิที่เรียนเก่งได้ทุนไปเรียนอเมริกาจากโรงเรียนแต่ยากจน ถึงเมฟจะป็อปในโรงเรียนแต่เมฟก็มีปัญหาเรื่องแม่ที่ติดยาเสพติดและชอบก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เมฟมีน้องสาวต่างพ่อที่ต้องดูแล เมฟตึง ๆ กับโอทิสเรื่องโอทิสหักหน้าในงานปาร์ตี้ แต่ในภายหลังเธอทำใจได้แล้วและกำลังจะเริ่มต้นใหม่กับไอแซ็คหนุ่มพิการที่ชอบวาดรูป portrait
เอมมา แมคกี้ รับบทเป็น เมฟ ไวลีย์ สาวป็อปหัวกะทิที่เรียนเก่งได้ทุนไปเรียนอเมริกาจากโรงเรียนแต่ยากจน ถึงเมฟจะป็อปในโรงเรียนแต่เมฟก็มีปัญหาเรื่องแม่ที่ติดยาเสพติดและชอบก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เมฟมีน้องสาวต่างพ่อที่ต้องดูแล เมฟตึง ๆ กับโอทิสเรื่องโอทิสหักหน้าในงานปาร์ตี้ แต่ในภายหลังเธอทำใจได้แล้วและกำลังจะเริ่มต้นใหม่กับไอแซ็คหนุ่มพิการที่ชอบวาดรูป portrait

เครดิตภาพจาก Sex Education

ในซีซั่น 3 ที่เนื้อหาค่อนข้างจะเบาหวิว มีจุดดีอยู่บ้างตรงที่มีการให้คำแนะนำกับตัวเอมิ่เด็กนักเรียนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศบนรถเมล์ จีน มิลเบิร์น นักบำบัดได้ให้คำแนะนำว่าการที่เธอยิ้มให้คนแปลกหน้าไม่ใช่ความผิดของเธอ เธอควรจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป สะท้อนให้เห็นว่าเหยื่อที่ถูกข่มขืนก็มักจะมีปมในใจและโทษตัวเองแทนที่จะโทษคนร้าย ความสัมพันธ์ในเรื่องนี้มีหลายคู่มาก ๆ ซึ่งเราจะเห็นชัด ๆ แบบกางให้ดูเลยว่ามีใครบ้างตอนนักเรียนไปทัศนศึกษา เรารู้สึกว่าซีรีย์ไม่กล้าที่จะลงลึกความสัมพันธ์ใดสัมพันธ์หนึ่ง คือมีลงลึกบ้างเฉพาะตัวละครเอกที่สำคัญจริง ๆ ทำให้รู้สึกว่าซีซั่นนี้แตะเรื่องความรักความสัมพันธ์แบบผิว ๆ ไปหมด เราชอบแบบซีซั่น 1 กับซีซั่น 2 มากกว่าที่ให้แอร์ไทม์เป็น 1-2 ตอนกับตัวละครตัวหนึ่งหรือคู่รักคู่หนึ่งไปเลยและพาไปสำรวจชีวิตเขา การเขียนแบบหยอดทุกตัวทุกตอนแบบนี้มันทำให้ตอนที่เรากำลังสนใจคู่นี้อยู่ กลับต้องหันเหไปสนใจคู่อื่นอีกแล้ว แล้วทำแบบนี้เป็น 5-6 คู่ ทำให้คนดูสมาธิสั้นและไม่มีเวลาคิดมากพอ

เอมี่ ลู วูด รับบทเป็น เอมี่ กิ๊บส์ เพื่อนสนิทของเมฟที่คอยให้ความช่วยเหลือและอยู่กับเมฟเวลาที่เมฟเศร้า เธอรู้ทุกปัญหาของเมฟ เธอมีปัญหาความสัมพันธ์กับสตีฟแฟนหนุ่ม ทั้งที่สตีฟเป็นคนที่แสนดีมาก แต่เอมี่เพิ่งเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ อย่างการล่วงละเมิดทางเพศมาจากผู้ชายโรคจิตบนรถเมล์ เอมี่รู้สึกผิดที่จะทำให้สตีฟเสียใจ เพราะเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้ชอบเขาเหมือนเดิมแล้ว แค่อยากอยู่กับตัวเองเท่านั้น เอมี่ได้ไปเป็นลูกค้าของจีน มิลเบิร์นเพื่อกลับมารักตัวเองได้อีกครั้ง
เอมี่ ลู วูด รับบทเป็น เอมี่ กิ๊บส์ เพื่อนสนิทของเมฟที่คอยให้ความช่วยเหลือและอยู่กับเมฟเวลาที่เมฟเศร้า เธอรู้ทุกปัญหาของเมฟ เธอมีปัญหาความสัมพันธ์กับสตีฟแฟนหนุ่ม ทั้งที่สตีฟเป็นคนที่แสนดีมาก แต่เอมี่เพิ่งเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ อย่างการล่วงละเมิดทางเพศมาจากผู้ชายโรคจิตบนรถเมล์ เอมี่รู้สึกผิดที่จะทำให้สตีฟเสียใจ เพราะเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้ชอบเขาเหมือนเดิมแล้ว แค่อยากอยู่กับตัวเองเท่านั้น เอมี่ได้ไปเป็นลูกค้าของจีน มิลเบิร์นเพื่อกลับมารักตัวเองได้อีกครั้ง

เครดิตภาพจาก Sex Education

เราขอพูดถึงความสัมพันธ์ในเรื่องแบบรวบรัด เอาแบบที่ให้คุณอยากไปตามดูต่อในเรื่อง ความสัมพันธ์ของจีนกับยาค็อบคือไม่ค่อยราบรื่น เพราะทั้งคู่ชอบไม่เหมือนกัน แต่ต้องมามีลูกด้วยกัน จีนเป็นคนที่ชอบมี casual sex แต่ยาค็อบรักเดียวใจเดียว ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่เนือง ๆ แต่ก็พยายามปรับจูนโดยไปหานักบำบัดที่เชี่ยวชาญเรื่องคู่แต่งงานโดยเฉพาะ มันมีเรื่องให้ต้องไปดูต่อในซีซั่น 4 แน่ ๆ แต่เราคิดว่ายังไงคู่นี้ก็ต้องลงเอยกันนั่นแหละ ไม่น่าจะพลิกแล้ว ความสัมพันธ์ของรูบี้ โอทิส เมฟ และไอแซ็ค ที่เป็นรักสี่เส้า ก็ต้องไปดูว่าจะเป็นยังไงต่อ ใบ้ให้นิดนึงว่าโอทิสและเมฟมีการเติบโตมากขึ้นจากการที่ได้ลองไปคบคนอื่นดูบ้าง เมฟก็ได้ไปเคลียร์กับแม่ตัวเองที่ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี ความสัมพันธ์ของเอริคกับอดัมที่หวานชื่นกันในซีซั่น 2 ในซีซั่นนี้มีบทสรุปสำหรับอดัมที่ยอมรับแล้วว่าตัวเองเป็นเกย์กับเอริคผู้ชอบหว่านเสน่ห์ คู่นี้ทำให้เรานึกถึงความรักในชีวิตจริงที่มีอุปสรรคต้องฝ่าฟัน ไม่ใช่ความรักแบบในนิยายที่พระเอกต้องคู่กับนางเอกเท่านั้น ความสัมพันธ์ของลิลลี่กับโอล่าที่เปลี่ยนจากเพื่อนขยับมาเป็นแฟน คู่นี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเป็น LGBTQA+ แต่ความบ้าเอเลี่ยนของลิลลี่ก็ทำให้คู่นี้มีปัญหากับเขาเหมือนกัน เราได้เห็นว่านอกจากรสนิยมทางเพศที่ตรงกันแล้ว มันยังมีเรื่องยิบย่อยอีก เช่น คนนี้ชอบเซ็กส์แบบปกติ คนนี้ชอบแต่งคอสเพลย์เป็นเอเลี่ยน หรืออัศวินยุคกลาง และความสัมพันธ์ที่เพิ่งเปิดตัวในซีซั่นนี้ แต่น่าจะมีบทสรุปในซีซั่นหน้า ก็คือ ความรักของแจ็คสันหัวหน้านักเรียนแฟนเก่าเมฟที่คราวนี้เขาไปชอบคาลสาวน้อยที่เป็นนอนไบนารี่ คาลบอกว่าตัวเองเป็นเควียร์ ก็คือเธออาจจะชอบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และที่สำคัญเธอไม่ชอบใส่กระโปรง เหมือนกับซีรีย์จะบอกเราว่าเรื่องความรักชอบเพศไหนกับเพศที่แสดงออกด้วยการแต่งกายมันเป็นคนละเรื่องกัน คาลชอบแจ็คสันที่แจ็คสันเป็นแจ็คสัน ไม่ได้ชอบแจ็คสันเพราะแจ็คสันเป็นผู้ชาย และคาลก็อยากจะคุยกับแจ็คสันที่เป็นชายแท้ว่าอยากให้มองเธอเป็นเควียร์ ไม่ใช่มองเธอเป็นผู้หญิง

เอซา บัตเตอร์ฟิลด์ รับบทเป็น โอทิส มิลเบิร์น เด็กหนุ่มที่เคยเปิดคลินิกให้คำปรึกษาเพื่อน ๆ เรื่องเซ็กส์ในซีซั่น 1 และ 2 (เวลาในเรื่องก็ประมาณม.4-ม.5) แต่เพราะความรักไม่ลงตัวกับเมฟ ทำให้เขาไม่อยากทำคลินิกเซ็กส์อีกต่อไป ประกอบกับแม่ก็เตือนว่าถ้าเขาไปให้คำแนะนำกับเพื่อนแบบผิด ๆ เขาจะแบกรับความรู้สึกผิดได้หรือไม่ โอทิสเลิกกับโอล่า ก็ไปมีความสัมพันธ์แบบ One Night Stand กับดาวโรงเรียนอย่างรูบี้ แมททิวส์ ต่อมาโอทิสก็คบกับรูบี้แบบไม่ผูกมัด ความสัมพันธ์ของโอทิสกับรูบี้จะมีโอกาสพัฒนาเป็นแฟนได้หรือไม่ และโอทิสจะตัดใจจากเมฟได้ไหมเนี่ย
เอซา บัตเตอร์ฟิลด์ รับบทเป็น โอทิส มิลเบิร์น เด็กหนุ่มที่เคยเปิดคลินิกให้คำปรึกษาเพื่อน ๆ เรื่องเซ็กส์ในซีซั่น 1 และ 2 (เวลาในเรื่องก็ประมาณม.4-ม.5) แต่เพราะความรักไม่ลงตัวกับเมฟ ทำให้เขาไม่อยากทำคลินิกเซ็กส์อีกต่อไป ประกอบกับแม่ก็เตือนว่าถ้าเขาไปให้คำแนะนำกับเพื่อนแบบผิด ๆ เขาจะแบกรับความรู้สึกผิดได้หรือไม่ โอทิสเลิกกับโอล่า ก็ไปมีความสัมพันธ์แบบ One Night Stand กับดาวโรงเรียนอย่างรูบี้ แมททิวส์ ต่อมาโอทิสก็คบกับรูบี้แบบไม่ผูกมัด ความสัมพันธ์ของโอทิสกับรูบี้จะมีโอกาสพัฒนาเป็นแฟนได้หรือไม่ และโอทิสจะตัดใจจากเมฟได้ไหมเนี่ย

เครดิตภาพจาก Sex Education

ถ้าคุณติดตามมาตั้งแต่ซีซั่น 1 หรือ 2 คุณก็อาจจะผิดหวังกับซีซั่น 3 อยู่บ้าง ไม่ดูก็ไม่ถือว่าพลาดอะไรไปมากหรอก เพราะการนำเสนอเรื่องเพศแบบโดน ๆ ก็อาจจะไม่ค่อยมีแล้ว แต่ถ้าคุณรักในตัวละครแต่ละตัวในเรื่องนี้ คุณต้องดูเพื่อดื่มด่ำกับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของเขา ถึงบทสรุปหลาย ๆ อย่างที่ดูง่าย ๆ เหมือนตัดจบ แต่เราก็คิดว่าทุกความสัมพันธ์ที่สมหวังและไม่สมหวังมันให้บทเรียนกับเราและทำให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน ใครที่อยากหาซีรีย์เบา ๆ เพลิน ๆ ที่มีบทพูดที่ตลกคมคาย และเยียวยาจิตใจยามเหงา ๆ เศร้า ๆ ก็มาดูซีรีย์เรื่องนี้ เพราะ Sex Education ตอบโจทย์ทั้งหมดที่กล่าวมา

สุดท้ายนี้ถ้าใครมาอ่านแต่ยังไม่ได้ดูซีซั่นแรก ก็ขอให้ไปเริ่มดูซีซั่นแรกก่อน อย่าข้าม เพราะซีซั่นแรกคือสนุกที่สุดและได้อรรถรสในความบ้าบอคอแตก ขำแรงที่สุดแล้ว ถ้าดูรวดเดียวสามซีซั่นอาจจะไม่รู้สึกว่าเรื่องมันดรอปเหมือนคนที่รอดูซีซั่นสามก็ได้ ของอย่างนี้ต้องลองดูเอง อย่าเชื่อนักวิจารณ์มาก คนเราชอบไม่เหมือนกัน

ขอบคุณภาพปกจาก Sex Education

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save