แอนิเมชัน Vivo (วีโว่) การ์ตูนมิวสิคัลดูเพลิน ชมได้ทาง Netflix

แอนิเมชันสด ๆ ร้อน ๆ จาก Netflix เรื่อง Vivo ที่มีตัวเอกเป็นสัตว์ที่พวกเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อกัน คือ น้องคิงคาจู(ไม่ใช่แคงการู) คิงคาจูมีอีกชื่อเรียกว่าหมีน้ำผึ้ง แต่มันกลับเป็นสัตว์ในวงศ์แรคคูนซะงั้น เจ้าคิงคาจูตัวนี้ชื่อวีโว่ เดิมถิ่นกำเนิดมันก็อยู่ในป่าดิบชื้นในอเมริกาใต้ แต่มีคนใจร้ายลักลอบจับสัตว์ป่ามา และมันก็ได้หนีออกมาจากกล่องที่ตกจากรถระหว่างทาง โชคดีของคิงคาจูที่ได้พบกับนักดนตรีแก่ใจดีชาวคิวบาชื่อว่าคุณปู่อันเดรส คุณปู่ก็ได้เลี้ยงคิงคาจูตัวนี้และตั้งชื่อว่าวีโว่เพราะมันชอบเสียงดนตรีและมีชีวิตชีวา เจ้าวีโว่กับคุณปู่อันเดรสได้แสดงดนตรีเปิดหมวกตามถนนในเมืองคิวบา

เครดิตภาพจาก Netflix

จนกระทั่งวันหนึ่งคุณปู่อันเดรสได้รับจดหมายจากสาวที่คุณปู่เคยแอบชอบที่ตอนนี้เธอกลายเป็นนักร้องดิว่าตัวแม่ของไมอามี่ไปแล้ว สาวคนนี้ชื่อมาร์ตาเป็นคนคิวบาเหมือนกับคุณปู่อันเดรส ทั้งคู่เป็นคู่หูวงดนตรีกัน มาร์ตาเป็นคนร้อง อันเดรสเป็นนักดนตรี ตอนที่คุณปู่ตั้งใจจะสารภาพรักกับเธอ ก็มีแมวมองจากอเมริกาเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน แมวมองจะปั้นมาร์ตาให้เป็นนักร้องดังของอเมริกาให้ได้ ด้วยความที่อันเดรสรักมาร์ตามากและกลัวว่ามาร์ตาจะทิ้งความฝัน เขาจึงตัดสินใจไม่สารภาพรักออกไปและเก็บเพลงที่เขาแต่งให้เธอไว้กับตัวมาตลอด ในจดหมายมาร์ตาได้เชิญอันเดรสให้ไปเล่นดนตรีให้เธอในงานคอนเสิร์ตอำลาของเธอ เพราะเธอไม่ลืมคู่หูเก่าแก่อย่างเขา อันเดรสตั้งใจจะเอาเพลงที่เขาแต่งไปให้มาร์ตา วีโว่ไม่เข้าใจอันเดรสว่าทำไมต้องถ่อไปอเมริกาเพื่อเพลงเพลงเดียวและงอนหนีออกมาจากบ้าน ต่อมาเมื่อวีโว่คิดได้ว่าเพลงนั้นมีความสำคัญต่ออันเดรสกับมาร์ตาแค่ไหน วีโว่กลับบ้านไปก็เห็นคุณปู่อันเดรสหลับและไม่ตื่นอีกเลย

เครดิตภาพจาก Netflix

หลังจากงานศพของคุณปู่อันเดรส วีโว่ก็ได้แต่คิดว่าจะต้องส่งต่อเพลงแทนคุณปู่ แต่เขาเป็นเพียงคิงคาจู ไม่รู้วิธีไปอเมริกา แต่พอได้ยินว่าหลานสาวของคุณปู่ชื่อแก๊บบี้มาจากฟลอริดา เขาจึงแอบซ่อนตัวในกระเป๋าเดินทางของเธอ มาร่วมลุ้นกันว่าวีโว่จะสามารถบอกความในใจของคุณปู่อันเดรสให้มาร์ตาได้รู้หรือไม่ และดื่มด่ำไปกับมิตรภาพอันน่ารักของแก๊บบี้หลานสาวคุณปู่สุดแนวกับวีโว่คิงคาจูหัวโบราณ กว่าหนึ่งคนกับหนึ่งตัวจะปรับจูนกันลงตัวไม่ใช่เล่น ๆ

พล็อตเรื่อง Vivo ก็เหมือนการ์ตูนทั่วไป สำหรับเรามีความคล้ายเรื่อง Soul ของดิสนีย์มากเลย เรื่องที่เป็นนักดนตรีแล้วตายก่อนได้ทำตามความฝัน แต่ก็มีจุดที่ต่างคือเรื่องนี้ปู่อันเดรสแกสำเร็จแล้วละคือเป็นนักดนตรีเล่นวงมากับมาร์ตา แต่มาร์ตาได้โอกาสที่ดีกว่าเพราะเป็นนักร้องนำ ความรักไม่สมหวังของคุณปู่อันเดรสเป็นอะไรที่จับใจ โรแมนติก มีความเสียสละเพื่อคนรัก แล้วก็ถึงจะตายตั้งแต่ต้นตอนที่คนดูยังไม่ค่อยผูกพันกับคุณปู่เท่าไหร่ แต่เนื้อเรื่องก็ทำให้เชื่อได้ว่าสำหรับวีโว่ คุณปู่เป็นพ่อแม่ของเขา ตอนที่วีโว่ได้มาเจอกับหลานสาวคุณปู่ที่ชอบดนตรีเหมือนกัน แต่หลานสาวจะชอบดนตรีแนวร็อค เราก็ยังนึกไม่ออกว่าทั้งสองจะเข้ากันได้ยังไง แต่ด้วยการผ่านอะไรมาด้วยกันก็ทำให้ทั้งสองค่อย ๆ ปรับจูนเข้าด้วยกัน เราชอบที่คนคิดคาแรคเตอร์ให้วีโว่มีนิสัยรอบคอบ และมีความจู้จี้แบบคนแก่เพราะอยู่กับปู่มา และก็มีความเครียดเมื่อไม่เป็นไปตามแผน น้องแก๊บบี้หลานสาวปู่นี่นิสัยแบบเด็กรุ่นใหม่เลย อยากรู้อยากลอง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งมาก เป็นเด็กฉลาดเลยแหละ

เครดิตภาพจาก Netflix

ความตลกของเรื่องนี้ก็คือสามสาวขายคุกกี้ที่เหมือนจะเป็นตัวร้ายแต่มีความกวนมากกว่า มุกสามสาวนี่ใช้ได้เลยไม่ได้ฮาแต่เสียดสีสุด ๆ ทั้งเรื่องใบรับรองการฉีดวัคซีน การอนุรักษ์สัตว์ป่า และการขับรถทั้งที่บ้านห่างออกไปแค่สองซอย สามสาวคุกกี้เจ้ากี้เจ้าการเป็นเนตรนารีแต่ทำตัวเหมือนเป็นตำรวจ บทแซะพวกมือถือสากปากถือศีลประเภทชอบทำตัวเป็นคนดีสร้างภาพ ตอนที่วีโว่กับแก๊บบี้ผิดแผนต้องไปอยู่ในป่า ตอนนี้ก็คือทำให้นึกถึงเรื่องเมาคลีอยู่ (เพราะอะไรต้องดู) เรื่องนี้มีพล็อตย่อยน้อยหรือแทบไม่มีเลย เรียกได้ว่าเรื่องง่าย ๆ ธรรมดา ๆ แต่เนื้อเพลงดีมาก ก็มันเป็นมิวสิคัลไง ในเพลงเนี่ยมีหมดทุกอย่าง เพลงเนื้อร้องดี มีคำสอนในการใช้ชีวิตแบบเรื่อง Lion King ทำนองก็เพราะ เสียงนักร้องก็ทรงพลังสุด ๆ คือมิวสิคัลถ้าเพลงเพราะทุกเพลงยกเซ็ตนี่ก็เรียกได้ว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ดูรอบแรกอยากให้ดูซาวน์แทร็กภาษาอังกฤษก่อนเพราะได้อารมณ์กว่า แล้วรอบสองก็ลองฟังเสียงไทยจะได้ซึมซับกับเนื้อเพลงแบบไม่ต้องมัวอ่านซับไตเติ้ล เราว่านักร้องคนไทย คือ โอ๊ต ปราโมทย์ เฟรม วันเดอร์เฟรม เจนนิเฟอร์ คิ้ม ร้องดีกันหมดเลย ติดที่ว่าเสียงพากย์ไทยในเน็ตฟลิกซ์ทำไมเบามาก ต้องเงี่ยหูฟัง ในเวอร์ชั่นอังกฤษ เสียงนักร้องจะพุ่งมาก แต่ของไทยเราก็ไม่ได้ติดอะไร เสียงนักร้องแต่ละคนเหมาะกับคาแรคเตอร์ตัวละคร เพลงแรกที่มีแร็ปของคุณปู่อันเดรสกับวีโว่จะค่อนข้างแปร่งหู เพราะพอแปลออกมา เลี่ยงวรรณยุกต์ในภาษาไทยไม่ได้ มันก็เลยเหมือนพยายามจะออกเสียงภาษาไทยให้ถูกวรรณยุกต์ แล้วทิ้งโน้ตทิ้งคีย์ไปหมดเลย โดยรวมสนุกใช้ได้ ดูแล้วมีความสุข เป็นเรื่องที่ผสมผสานเรื่องดนตรีกับการผจญภัยได้ลงตัว ไม่ต้องมีเวทมนตร์หรือแฟนตาซีที่หวือหวาก็ประทับใจคนได้อยู่ ถ้าคนอ่อนไหวง่ายก็มีร้องไห้หลายตอนอยู่

ขอบคุณภาพปกจาก Netflix