ซีรีย์ฝรั่ง Clickbait คลิกล่อตาย ชมได้ที่ Netflix

Clickbait เป็นอีกหนึ่งซีรีย์ใน Netflix ที่คุณควรเก็บเข้าลิสต์หรือดูทันทีอย่ารอให้ตลาดวาย เพราะ Clickbait เป็นซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวนที่แสบจี๊ดจ๊าด หาตัวคนฆ่ายังไม่พอ ยังเสียดสีคนสมัยใหม่ได้แบบเจ็บลึกอีก

เครดิตภาพจาก Netflix Official Site

สมัยนี้พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย รวมถึงยูทูบเป็นปกติธรรมดาของคนเหมือนอาบน้ำกินข้าว เรียกว่าขาดไม่ได้เลยดีกว่า ตื่นนอนมาก็ต้องเช็กมือถือ ก่อนนอนก็ยังต้องส่งอีโมจิกลับไปว่าฝันดี จนทำให้วิจารณญาณในการรับข่าวสารของเรามันลดทอน เพราะสมองมันคุ้นชินกับการด่วนตัดสินคนไว เวลาเราเลือกเสพหนังหรือข่าวอะไรบนเฟซบุ๊กหรือยูทูบ เราก็เลือกเพราะความชอบใช่ไหม เฟซบุ๊กหรือยูทูบต้องการรู้ความคิดเห็นของคน มันก็เลยฝึกเราให้ชินทุกวันกับการถามตัวเองว่าฉันรู้สึกยังไงกับคอนเทนต์นี้ แถมยังมีอารมณ์สำเร็จรูปให้เลือกว่าชอบ ไม่ชอบ โกรธ เสียใจ เป็นห่วง และขำดี ส่วนของเหตุผลก็เลยไม่ได้ฝึกใช้บ่อย ๆ เช่นเดียวกับยูทูบที่อยากจะรู้ความชอบของเราตลอดเวลา ทำให้เราเองคิดว่าเราปรับแต่งทุกอย่างได้ตามใจเรา กลายเป็นคนที่อยู่กับโลกออนไลน์มาก ๆ กลายเป็นคนเหงา คิดว่าโลกหมุนรอบตัวเอง อัตตาสูง โลกจะต้องเป็นไปตามที่ฉันต้องการ ทั้งที่โลกจริงไม่ได้มีเพียงแค่โลกโซเชียลเท่านั้น

Clickbait เล่าเรื่องในแต่ละตอนทีละตัวละคร เป็นความจริงที่เราทุกคนจะเลือกเชื่อตัวเองทำให้มองอะไรแบบด้านเดียว เราจะได้มุมมองที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง เริ่มจากมุมมองของเพีย บรูเวอร์ น้องสาวของนิก บรูเวอร์ที่ตายไป เพียเป็นคนอารมณ์ร้อนแบบพร้อมไฝว้ แต่จริง ๆ เพียรักพี่ชายมากถึงจะทะเลาะกันบ่อย ๆ เพียเป็นคนที่เก็บความลับของพี่ชายเรื่องสูบกัญชาและรู้พาสเวิร์ดคอมพิวเตอร์ของนิก บรูเวอร์ทั้งที่นิกไม่เคยบอก เพียเป็นน้องสาวที่รู้ใจนิก ถึงจะดูน่าสงสัยเพราะทะเลาะกันบ่อย แต่เพียเป็นเพียงคนเปิดเรื่องเท่านั้น เพียทำหน้าที่สืบไปพร้อมกับคนดู พร้อมกับมีความสัมพันธ์น่าลุ้นกับโรชานคุณนักสืบที่เป็นพ่อม่ายชาวมุสลิม ความสัมพันธ์ของเพียกับโซฟีพี่สะใภ้เป็นไปแบบห่างเหิน เพราะเพียเองก็ไม่ชอบที่พี่สะใภ้เป็นคนเจ้าระเบียบ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านทุกครั้งแบบที่นิกพี่ชายของเธอชอบบ่นภรรยาให้ฟังประจำ

เครดิตภาพจาก Netflix Official Site

ประเด็นเรื่องความสัมพันธ์สามีภรรยาในเรื่องนี้ก็น่าสนใจ โดยในเรื่องได้พูดถึงความสัมพันธ์ของคนสองคู่ คือ โรชานนักสืบที่แยกทางกับภรรยา แต่ก็ช่วยกันดูแลลูกชายคนเดียว โรชานเคยแต่งงานจึงเข้าใจที่โซฟี บรูเวอร์ ภรรยาของนิกพูดเรื่องชีวิตคู่ต้องมีระหองระแหงกัน พวกเขาพยายามให้อภัยและข้ามผ่านเรื่องแย่ ๆ สิ่งที่โซฟีพูดเป็นความจริงครึ่งเดียว คือทั้งเพียและโซฟีที่เป็นคนใกล้ตัวนิกต่างก็มีความลับ ทำให้ทั้งสองเลือกที่จะโกหกเจ้าหน้าที่ ทำให้การสืบหาตัวคนร้ายยุ่งยากไปอีกเหมือนงูกินหาง ในพาร์ตของโซฟีมีใส่ประเด็นเรื่องคนผิวสีนิดหน่อยแต่ไม่ได้ลึกอะไร ผู้ชายที่โซฟีเล่นชู้เป็นคนผิวสีและเคยมีเรื่องกับนิก ทำให้ตำรวจเบนเข็มไปที่เขาทันที ถ้าไม่มีหลักฐานที่อยู่ ชู้ของโซฟีน่าจะเป็นแพะรับบาปแน่ ๆ เพราะอคติของตำรวจผิวขาวที่มีต่อคนผิวสี

พอนิกตายไปเหมือนคนที่เป็นตัวกลางเชื่อมสองครอบครัวหายไป แม่ของนิกเริ่มทำตัวร้าย ๆ กับโซฟีและแม่ของเธอ แม่ของนิกแสดงออกอย่างเด่นชัดว่ารักลูกชายมากกว่าลูกสาว ขณะที่แม่ของโซฟีก็ปกป้องลูกสาวของเธอและมาอยู่เป็นเพื่อนโซฟีในเวลาที่เศร้าที่สุดอย่างตอนนี้

เครดิตภาพจาก Netflix Official Site

เบาะแสของนิกชักบานปลายเมื่อมีคนนอกวงครอบครัวมาบอกโซฟีว่าเป็นชู้รักของนิก การมาของเธอทำให้ทิศทางการสอบสวนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เรื่องฉาวโฉ่อย่างการมีชู้ทำให้นักข่าวอยากขุดคุ้ยมากกว่าเดิม จนมีนักข่าวคนหนึ่งกล้าบ้าบิ่นขนาดที่ว่าเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้ข่าวมา ในตอนของนักข่าวแม้จะเกี่ยวกับเรื่องเพียงเล็กน้อย แต่ก็สะท้อนสังคมว่าบางครั้งคนเราก็เห็นแก่ตัวมากพอเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพและชื่อเสียง ถึงกับบุกรุกบ้านคนอื่นหรือแอบขโมยมือถือเพื่อดูข้อความแชต แต่ข้อมูลที่นักข่าวได้ถึงจะได้มาไม่ถูกต้องก็ยังเป็นประโยชน์ในการสืบคดีของตำรวจ

ซีรีย์จะปั่นหัวให้เราสงสัยคนนั้นคนนี้ว่าน่าจะใช่แต่ก็ไม่ใช่ จนกว่าจะถึงตอนสุดท้ายที่เฉลยทุกอย่าง เราเชื่อเลยว่าคนเดาถูกว่าใครคือคนร้ายมีน้อยมาก ๆ ให้ 5 เปอร์เซ็นต์เลย เพราะซีรีย์ใช้วิธีอมข้อมูลคือไม่บอก ความยอดเยี่ยมของซีรีย์คือแม้หลัง ๆ จะให้เห็นมุมมองของนิก บรูเวอร์ แต่ก็ยังมีการกั๊กความจริงไว้แบบที่คนดูคิดว่าน่าจะสุดท้ายแล้ว แต่ก็ยังอุตส่าห์หักมุมหัวทิ่มได้อีก พอรู้แล้วว่าใครเป็นตัวการ ทำให้เรามองย้อนกลับไปว่าจริง ๆ มีคำใบ้ในเรื่องนะ แต่คำใบ้ค่อนข้างจะไม่ชัดทำให้เราพลาดจริง ๆ คำใบ้คือคนร้ายตัวจริงยังลอยนวลอยู่ เขาต้องมาชื่นชมผลงานในงานรำลึกถึงนิก เพราะทุกคนมารวมตัวกันหน้าสลอน ทำให้ในตอนนั้นนึกว่าใครจะเป็นคนร้ายไม่ออกจริง ๆ

เครดิตภาพจาก Netflix Official Site

ในตอนเฉลยว่านิกเป็นคนข่มขืนและฆ่าผู้หญิงจริงหรือไม่ ทำให้เราฉุกคิดได้ว่าคนเรามักจะตัดสินและด่าทอคนที่เราไม่รู้จักได้ทันทีทั้งที่เห็นว่าเขายกป้ายว่าเขาข่มขืนผู้หญิงและฆ่าเธอ แม้จะมีคำโปรยว่าครบ 5 ล้านวิว ผู้ชายคนนี้จะต้องตาย แต่คนดูคลิปก็มองความตายของคนเป็นเรื่องบันเทิง แชร์ส่งต่อกันโดยไม่สนใจชีวิตของคนในคลิปว่าจะรอดหรือตาย มีเพียงคนใกล้ชิดของนิกที่คิดว่านิกไม่น่าจะทำแบบนั้น ไม่ว่าคำตอบคือนิกทำจริงหรือไม่ได้ทำ นิกก็ไม่ควรถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น ในตอนลูกชายเราจะได้เห็นนิสัยความมุทะลุ พร้อมลุยเดี่ยวของนิกผ่านไคลูกชายคนเล็ก ส่วนอีธานลูกชายคนโตจะเหมือนโซฟีที่เป็นคนมีสติและใจเย็น เหตุที่นิกตายก็มีความสมเหตุสมผลดี Clickbait สามารถสะสางความสงสัยทั้งหมดให้จบแบบเคลียร์ในตอนสุดท้ายตอนเดียว และยังเล่าได้สนุกตั้งแต่ต้นยันจบ ไม่มีน่าเบื่อสักตอน

แนะนำให้ดู Clickbait รวดเดียวจบเลยค่ะ มีแค่ 8 ตอน ตอนละ 50 นาที จะได้รวบรวมหลักฐานได้ไม่ตกหล่น ดูเรื่องนี้แล้วทำให้เรากลับมาทบทวนตัวเองว่าอย่าโยงมั่ว อย่าคิดว่าทุกอย่างลงล็อก เชื่อมหากันไปหมด ความจริงที่เรารู้อาจจะมาจากการโมเมคิดเองเออเองของเรา ใครเป็นคนที่โกหกได้แนบเนียนที่สุด และยิ่งย้ำธีมของเรื่องเลยว่าคนเราให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่บนโซเชียลมาก จนทำให้คนคนหนึ่งที่แทบไม่มีคนสนใจ (ไม่อยู่ในสายตาขนาดที่เรายังไม่คิดจะสงสัยเขาเลย) ได้สร้างตัวตนเป็นอีกคนบนโลกโซเชียล เพียงเพื่ออยากได้เพื่อนคลายเหงาเท่านั้นเอง

แล้วสำหรับคุณโซเชียลมีเดียกับชีวิตจริงต่างกันมากไหม แล้วคุณชอบจะอยู่ตรงไหนมากกว่ากัน เวลาหมกมุ่นกับมือถือมากทำให้เราละเลยเวลาร่วมกับครอบครัว จนไม่รู้แม้แต่เรื่องทุกข์ใจที่เขาแบกเอาไว้ทั้งที่เป็นครอบครัวเดียวกัน ลองวางมือถือลงก่อนแล้วมองไปรอบตัว เห็นคนในบ้านชัดขึ้นไหมคะ

ขอบคุณภาพปกจาก Netflix Official Site