ซีรีย์เกาหลี Squid Game เกมลุ้นตาย ต้องรอดถึงจะได้เงิน 45.6 พันล้านวอน ชมได้ที่ Netflix
Squid Game เป็นซีรีย์แนวเซอร์ไววัลเรื่องล่าสุดของ Netflix ที่แค่ชื่อผู้กำกับฮวังดงฮยอกก็รับรองความดาร์ก ความหดหู่ของเรื่องได้ดีอยู่แล้ว ถ้าใครเคยดูผลงานเก่าของผู้กำกับคนนี้เรื่อง The Silenced เสียงจากหัวใจ ไม่มีใครได้ยิน ก็จะพอรู้แนวว่าผู้กำกับมีลูกล่อลูกชนยังไง มีการใส่คำใบ้ไว้ในแต่ละฉากแต่เราจับทางไม่ได้ หลอกเก่ง หักมุมเก่ง และมีวิธีเอาฉากแฟลชแบ็คต่าง ๆ มาใช้อย่างคุ้มค่า และทำให้เรานั่งไม่ติดเก้าอี้ลุ้นยันตอนจบ ถึงแม้เด็ก ๆ ผู้พิการทางการได้ยินจะโชคดีมาเจอคุณครูที่ลุกขึ้นสู้เพื่อพวกเขา แต่สุดท้ายคนดีก็แพ้คนมีอำนาจ คนรวยอยู่ดี นำไปสู่จุดจบในเรื่อง
เครดิตภาพจาก Netflix Official Site
ในซีรีย์เรื่อง Squid Game นี้ถึงแม้จะเป็นแนวเซอร์ไววัล แนวที่เห็นหน้าหนังก็พอจะรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไง เพราะในตลาดหนังฝรั่งก็มีแนวเซอร์ไววัลออกจะเกลื่อน ไม่ว่าจะเป็น Ready Player One, Hunger Game และ The Maze Runner ที่ผู้เล่นแต่ละคนถูกจับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และต้องฆ่าผู้เล่นคนอื่นเพื่อเป็นผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว แต่ Squid Game ได้ดึงจุดเด่นของซีรีย์แนวดราม่าเกาหลีด้วยการให้เวลากับการปูพื้นปูมหลังของพระเอกซองกีฮุน (อีจองแจ) ว่าเขามีความจนตรอกเพียงใด ซองกีฮุนเป็นคนที่ไม่เพียงแต่ไม่เอาไหน เรียนไม่เก่ง วัน ๆ เอาแต่เล่นพนันจนหมดตัว มีชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลว ภรรยาที่หย่ากันได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกสาวและจะย้ายไปอยู่อเมริกากับสามีใหม่ในปีหน้า เขายังเป็นคนที่โชคไม่ช่วยอีก แม้แต่วันโชคดีที่ชนะในการแทงม้าก็กลับถูกโจรล้วงกระเป๋าไปเสียหมด
ความน่าสมเพชเวทนาในตัวละครพระเอกทำให้เราอยากจะรู้ต่อไปว่าเกมเสี่ยงตายอย่าง Squid Game จะทำให้เขาพลิกชีวิตได้หรือไม่ จริง ๆ ตัวละครทุกตัวก็มีเหตุผลให้ต้องมาอยู่ในเกม ส่วนใหญ่แล้วก็มีหนี้สินท่วมตัวทั้งนั้น ไม่มีเงินจ่ายแต่ทำสัญญามอบอวัยวะให้แทน ภาพจำที่เราเห็นจากหนังเรื่อง Extracurricular ชมรมลับ ธุรกิจรัก ที่มีการทวงหนี้โดยการซ้อม ถ้าทวงแล้วยังไม่ได้เงินอีกก็จะมีการตัดอวัยวะ เป็นการบีบให้อีกฝ่ายต้องหาเงินมาใช้ให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นก็ต้องหนีให้ไกลจนตามไม่เจอ มาจนถึงเรื่องนี้เราเข้าใจความทุกข์ทนของคนที่เป็นหนี้จากการกู้นอกระบบที่จะต้องมีมาเฟียคอยตามล้างตามเช็ดจนกว่าจะใช้หนี้หมด เรียกได้ว่าสภาพที่ถูกซ้อมแบบสะบักสะบอมยิ่งชี้ชัดถึงความไม่มีทางสู้ ความหลังชนฝาของตัวละครนั้น
เครดิตภาพจาก Netflix Official Site
ซีรีย์ฉลาดในการใช้ตัวละครชั่วร้ายอย่างนักเลงมาเป็นตัวกระตุ้นความดำมืดในจิตใจคน เพราะในตอนแรกทุกคนที่เข้ามาก็ไม่กล้าทำร้ายฝ่ายตรงข้าม จนกระทั่งได้เห็นจำนวนเงินในกระปุกหมูมันเยอะมากขึ้นและกลิ่นเงินก็ยิ่งเย้ายวนมากขึ้นทุกที และมีคนเริ่มคนแรก ทำให้คนที่ตอนแรกไม่กล้าฆ่าคนอื่นก็มีข้ออ้างว่าฉันไม่ผิด เพราะมีคนทำมาก่อน กลายเป็นนักเลงหัวไม้เป็นโดมิโนตัวแรกของผู้กำกับที่ล้มใส่โดมิโนตัวอื่น ๆ ให้ระเนระนาดไปเรื่อย ๆ รวมทั้งมีตัวละครหญิงอีกตัวที่เคยติดคุกหลายคดี ด้วยความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเธอทำให้เธอรู้ว่าเธอต้องอยู่กับใครถึงจะรอด แต่เพราะความช่างปั่นของเธอ เราก็สงสัยอยู่แล้วว่าซีรีย์ไม่น่าให้เธอรีบตาย น่าจะให้เธออยู่ปั่นนักเลงต่อไป คู่นักเลงกับนักโทษหญิงนี่เป็นคู่ที่คบกันเพื่อผลประโยชน์
ในตอนแรกผู้เล่นทุกคนได้เล่นเกมเออีไอโอยู หยุด เป็นเกมที่ต้องนิ่งเมื่อหุ่นยนต์หันหลังกลับ ใครขยับตายทันที เกมนี้เหมือนเป็นเกมเชื่อมสัมพันธ์ เพราะผู้เล่นทุกคนเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดโดยยืนอยู่ด้านหลังคนอื่น เริ่มหาทีมหรือฟังคนที่มีกลยุทธ์เก่ง ๆ มาถึงเกมสองที่กลายเป็นเกมแข่งเดี่ยวแต่ยังไม่ทำร้ายใคร ก็ได้มีการช่วยเหลือกันเพราะรู้ว่าในเมื่อคนยังเยอะอยู่ การผูกมิตรกับคนในทีมน่าจะเป็นประโยชน์กว่า จนกระทั่งถึงเกมท้าย ๆ ที่ความตายเข้ามาใกล้ทุกที และภาพคนถูกยิงตายกลายเป็นความเคยชินของผู้เล่นทุกคนไปแล้ว ทำให้ผู้เล่นเริ่มแสดงสันดาบดิบ ความละโมบ ความเห็นแก่ตัว ไม่มีความแยแสว่าจะต้องข้ามไปกี่ศพเพื่อไปถึงเส้นชัย
เครดิตภาพจาก Netflix Official Site
ตอนที่เราได้เห็นในซีรีย์ Squid Game แล้วรู้สึกเศร้ามาก คือตอนที่เพื่อนร่วมทีมที่จับคู่กันมาเองต้องมาฆ่ากันเองเพื่อรอด ทั้งสองคนต้องมาเล่นเกมลูกแก้ว โดยกติกาจะเป็นยังไงก็ได้ ขอให้รู้ผลแพ้ชนะ คนชนะจะต้องมีลูกแก้วของตัวเองรวมกับของเพื่อนทั้งหมดได้ 20 ลูก สะเทือนใจที่คนฉลาดวางแผนอย่างซังอูได้หลอกขโมยลูกแก้วของอาลีแรงงานปากีสถานที่มาทำงานในเกาหลี ทั้งที่อาลีเล่นเกมลูกแก้วชนะซังอูจนซังอูไม่เหลือลูกแก้ว แต่ซังอูดันสลับเปลี่ยนเป็นถุงใส่ก้อนหินให้อาลีโดยใช้ลูกเล่นเอาเสื้อคลุมปิด หลอกใช้ความไว้วางใจของอาลีคนซื่อ หลอกให้อาลีไปนับจำนวนเด็กและคนแก่ คนที่มีโอกาสเสมอ ไม่รู้ผลแพ้ชนะก่อนเวลา ทำให้กว่าอาลีจะกลับมา ไม่มีโอกาสตรวจสอบลูกแก้วในถุง เรื่องนี้ก็บอกความจริงในสังคมว่าคนที่เชื่อใจคนอื่นแบบไม่สงสัยอะไรเลยแบบอาลีก็ต้องเป็นเหยื่อคนฉลาดที่พร้อมจะพลิกเกมได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะผ่านอะไรมาด้วยกัน ซังอูเคยให้ค่ารถอาลีกลับบ้านที่อัลซาน ทั้งคู่อยู่ทีมชักเย่อด้วยกัน แต่อาลีคงจะรักพี่ชายคนนี้จนตามืดบอดลืมความจริงที่ว่าทุกคนมาก็เพื่อชนะ และซังอูเลือกอาลีเป็นคู่ก็เพราะว่าอาลีเป็นคนร่างกายแข็งแกร่ง มีพละกำลัง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กกับซองกีฮุน แต่ซองกีฮุนทั้งผอมแห้งแรงน้อยและเอาตัวรอดไม่เก่งถึงได้เป็นผู้แพ้ในสังคม ซองกีฮุนรอดจากเกมในวินาทีสุดท้ายแทบจะทุกเกม เรียกได้ว่าซองกีฮุนยืนอยู่ปากเหวและอยู่ห่างความตายแค่เส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น
ในเกมลูกแก้วนี้เราได้เห็นความร้ายในตัวซองกีฮุนครั้งแรก ถึงซองกีฮุนจะเป็นคนใจดี และใจอ่อนกับผู้หญิงและคนแก่ แต่พอต้องเอาชีวิตรอด เขาก็สู้จริง ๆ และใช้อาการอัลไซเมอร์ของคุณตามาพลิกเกมที่จริง ๆ เขาต้องโดนยิงเพราะเขาทายลูกแก้วในมือคุณตาผิด แต่ถ้ามองดูอีกทีคุณตาก็ไม่น่าสงสารเท่าไหร่ เพราะอยู่ ๆ คุณตาที่ฉลาดในทุกตา กลับมาความจำเสื่อมกำเริบตอนที่กำลังจะแข่ง เหมือนคุณตาก็ใช้เหลี่ยมกับกีฮุนเหมือนกัน แล้วจุดที่เราว่าคุณตาไม่ธรรมดาก็คือการหลอกกีฮุนว่าลงเดิมพันหมดหน้าตัก แต่กลับซ่อนลูกแก้วหนึ่งลูกไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วพอกีฮุนจะเอาลูกแก้วอีกลูกจากคุณตา คุณตาก็กล้าที่ต่อรองว่ากีฮุนต้องลงเดิมพันหมดหน้าตักด้วยลูกแก้วทั้งหมดที่มี ทำให้จากเดิมที่เราสงสารคุณตา กลายเป็นไม่สงสารแล้ว คุณตาจะทำให้ที่เล่นมาทั้งหมดเปล่าประโยชน์ กลายเป็นโอกาสชนะหรือแพ้เป็น 50:50 เท่ากัน ซึ่งจริง ๆ ไม่เท่ากันหรอก เพราะดูจากสถิติที่ผ่านมาโอกาสชนะคุณตามีมากกว่าเห็น ๆ
เครดิตภาพจาก Netflix Official Site
ในเกมกระจกนี่ฆ่าคนตายไวมาก จนเรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ในการมองดูผู้เล่น แต่ว่าตอนนี้เป็นตอนวีไอพี คือเราได้ย้ายมุมมองมาดูฝั่งผู้ชมบ้าง พวกวีไอพีเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาพนันว่าผู้เล่นเบอร์ไหนจะชนะ พวกเขามองผู้เล่นเหมือนม้าแข่งในเกม รู้สึกสะใจที่เห็นผู้เล่นตกลงมาตาย แต่ในตอนนี้ก็มีความเข้มข้นของความเห็นแก่ตัวของคนที่อยู่ข้างหลังที่มองคนข้างหน้าเป็นเพียงเบี้ยที่จะทำให้ตัวเองชนะหรือตายแทนตัวเองเมื่อเหยียบบนกระจกแผ่นธรรมดาไม่ใช่กระจกนิรภัยที่รับน้ำหนักผู้เล่นได้
แต่ว่าจุดอ่อนที่ตอนแรกเป็นจุดแข็งของซีรีย์เรื่องนี้ คือ ส่วนที่เป็นการเข้าไปเป็นสายลับของตำรวจ ตำรวจที่เก่งมาตลอดกลับมาพลาดท่าแบบโง่ ๆ หลบหลีกแฝงตัวเป็นคนคุมเกมไม่ถูกจับได้เสียตั้งนาน มาไม่รอดเพราะโทรศัพท์แบตเตอรี่อ่อน สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี ไม่รีบหนีทางน้ำไป แล้วตอนหักมุมตอนฟรอนต์แมนก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ เพราะพอเดา ๆ ได้อยู่ กลับจบลงแบบไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ดูจบแล้วก็คิดว่าถ้าตำรวจจับได้ องค์กรนี้คงอยู่มาไม่ได้นานขนาดนี้หรอก แถมตำรวจลุยเดี่ยวอีกก็ไม่แปลกที่จะตาย แล้วซีรีย์ก็ดูจะปูทางสำหรับซีซั่นต่อไป ซึ่งหากจะทำจริง ๆ ก็แค่เปลี่ยนเกม เปลี่ยนผู้เล่น เหมือนเกมเรียลลิตี้ที่มีหลายซีซั่น คนเปลี่ยนแต่สันดาน ความเห็นแก่ตัวไม่เปลี่ยน กลายเป็นความบันเทิงของพวกวีไอพีอีกแล้ว
เรื่องนี้ตอนจบก็จะงง ๆ อึ้ง ๆ งงแบบไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่งงว่าชนะอย่างนี้เลยเหรอ เราว่าเกมที่ไม่สนุกที่สุดคือเกม Squid Game นี่แหละ อย่างนี้ไม่ต้องชื่อ Squid Game ก็ได้ โชคดีที่ตอนแรก ๆ ปูดราม่าตัวละครมาดี มันใช่เลยที่สองคนนี้จะต้องเป็นผู้เข้ารอบสองคนสุดท้าย แต่ว่าพอดูแล้วเป็นเกมอื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเกม Squid Game มุกตอนรอบสามคนคือน่าเบื่อมาก แจกมีดให้แทงหนึ่งคน จะฆ่าใครนี่หักคะแนน กลายเป็นว่าอีพีหลัง ๆ นี่ไม่ครีเอทเกมแล้ว ฆ่ากันเลยละกันจะได้ได้คนชนะเร็ว ๆ เสียดายมาก ๆ ก็รู้ว่าอยากเล่นแนวจิตวิทยา แต่น่าจะวางพล็อตให้แยบยลกว่านี้หน่อย
เครดิตภาพจาก Netflix Official Site
ตอนสุดท้ายที่เฉลยผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่างก็ค่อนข้างหักมุมและมีเหตุผลที่ดูไม่เข้าท่า แต่ก็เป็นความจริงของสังคมจริง ๆ ที่คนรวยจะเห็นชีวิตคนอื่นเป็นของเล่น เพียงเพราะตัวเองไปถึงความสำเร็จแล้วไม่มีความสุข หาเงินได้เยอะแต่เป็นโรคร้ายใกล้ตาย ก็เลยไม่วอรี่เรื่องความเป็นความตาย เลยทำเกมฆ่าคนเอาเงินรางวัลทำให้เหยื่อมาติดเบ็ด ไม่แปลกใจที่พระเอกจะหัวร้อนและรับไม่ได้เลย เพราะถ้าไม่ใช่เขาต้องหาเงินมารักษาแม่ที่เป็นเบาหวานอาการทรุด เขาไม่มีทางเอาชีวิตมาแลกกับเกมนี้ ถึงตอนจบจะขัดใจคนดูที่พระเอกไม่ไฮโซขึ้นหลังจากได้เงินรางวัล และไม่ขึ้นเครื่องบินไปหาลูกสาวที่อเมริกา แต่ว่าเราก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงว่าพอพระเอกเริ่มเปลี่ยนตัวเองคือไม่กระจอกเหมือนเดิม พอไม่มีภาระเรื่องแม่ หาเงินเลี้ยงตัวเองคนเดียว เขาก็เริ่มมีความกล้าลุกขึ้นมาสู้กับคนที่อยู่สูงกว่าบ้าง อีกอย่างที่กระตุ้นเขาก็คือการที่เขาสูญเสียเพื่อนร่วมทีมสองคน ทำให้เขากล้าที่จะสู้กับเกมนี้ ในตอนท้ายทิ้งท้ายว่ากีฮุนโทรไปสมัครเล่นเกมอีก ก็ไม่แน่ใจว่าถ้ามีภาคสองกีฮุนจะเดินเกมยังไงเพื่อสาวไส้เกมชั่ว ๆ ในเมื่อมีคนอยากหยุด มันก็ต้องมีคนกลุ่มหนึ่งที่อยากได้เงินรางวัลและไม่ยอมหยุด ก็ต้องมีการฆ่ากันอีก เพราะในเกมมีแพ้ชนะ ความเท่าเทียมที่เป็นอุดมคติสวยหรูจึงไม่มีจริง ประชาธิปไตยที่ดูเท่าเทียมแต่ไม่ยุติธรรม เจ้าของ Squid Game ได้หลอกผู้เข้าร่วมว่าโลกภายนอกโหดร้ายกว่า จึงสร้างโลกมาอีกใบที่ไม่ต่างกับโลกภายนอกเลย แต่คนก็ยังอยากเล่นเพราะเกมที่เล่นง่าย ๆ ชนะก็ง่าย ตายก็ง่ายและรวดเร็ว มันคงสบายกว่าโลกที่ต้องดิ้นรนทนทุกข์กว่าจะตาย
เรื่องนี้ดูเอาบันเทิงดูได้ แต่ถ้าจะหาสาระอาจมีไม่เยอะ มันก็เหมือนหนังหลอน ๆ ทั่วไปที่เอาคนมาเล่นแล้วตายไปทีละคน เหมือนหนัง Truth or Dare มันควรจะเข้มข้นกว่านี้ แต่จางไปหน่อยเพราะซีรีย์เลือกที่จะฆ่าคนที่น่าสนใจอย่างอาลีกับผู้หญิงที่เกลียดบาทหลวงไปตั้งแต่ตอนกลาง ๆ ถ้าให้มาเล่นเกมกระจกด้วยได้มีการหักหลังด้วยก็คงจะดี แต่ซีรีย์ก็คงตัดสินใจแล้วว่าคนที่อ่อนต่อโลกกับคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตสมควรตาย ตัวละครประกอบที่รอดมาถึงเกมกระจกหรือเกมสุดท้ายที่เหลือคนเล่นสิบกว่าคนก็ทำให้เราไม่ค่อยอิน เพราะแทบไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวละครนั้นเลย เหมือนมาให้ตัวละครหลักแสดงสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่จะต้องเอาตัวรอด ส่วนผู้เล่นที่บังเอิญเป็นช่างทำกระจกนี่ก็โอเคนะ บทมาแบบนี้ยอมก็ได้ ไม่งั้นตัวละครหลักทั้งสามตัวจะรอดได้ยังไงล่ะ แยกกระจกยังไงยังแยกไม่ออก สรุปเกม Squid Game ส่วนใหญ่เป็นเกมวัดดวง ไม่ใช้สติปัญญาหรือพละกำลังเลย อาจเป็นเพราะว่าตัวคนคิดเกมก็ไม่มีเรี่ยวแรงไปสู้กับใครเขาด้วย นอกจากมีความฉลาดกับเป็นคนที่มีโชคด้านพนัน เกมก็เลยออกมาในลักษณะนี้ พระเอกก็เป็นคนชอบเล่นการพนันด้วย ให้นักพนันที่ชีวิตไม่มีแก่นสารเข้ารอบก็เป็นเสียดสีแบบหนึ่งอีกเหมือนกัน
Squid Game มี 9 ตอน ตอนละ 40-60 นาที แต่ส่วนใหญ่ก็ 1 ชั่วโมง ค่อนข้างนานเหมือนกันสำหรับตอนซีรีย์ แต่ก็ไม่ทำให้เราเบื่อและทำให้เราดูต่อเนื่อง ไม่อยากพลาดสักตอน เพราะทุกตอนมีความสำคัญหมด ส่วนที่ต้องชมมาก ๆ ก็คือ เสียงดนตรีที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัด ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาเริ่มเกมเหมือนทุกคนต้องรีบหนีจากความตายทุกนาที มีคนจะฆ่ากันตลอดเวลา ถ้าไม่ฆ่ากันเองก็ผู้คุมเกมหรือทหารชุดแดงหน้ากากวงกลมสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยมนี่แหละฆ่า กับความคอนทราสต์ที่ในห้องของฟรอนต์แมนก็เปิดเพลงฝรั่งโรแมนติก เหมือนเขาไม่รู้สึกรู้สากับศพที่มากขึ้น ๆ จากการเล่นเกม เกมนี้กติกาต่าง ๆ ไม่ค่อยว้าว ค่อนข้างธรรมดาเลยถ้าคนดูหนังมาเยอะ ๆ แต่ความเหี้ยมเราว่าไม่แพ้ใคร มีฉากยิงคน ฉากตายเลือดพุ่งกันแบบจะ ๆ ใครเป็นสายโหดไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนคนที่เป็นสายสืบสวนต้องเผื่อใจ แต่ความตื่นเต้นระทึกขวัญเป็นของดีในซีรีย์ที่คนดูรู้สึกได้แน่นอน Squid Game เป็นซีรีย์ที่ควรชมในเน็ตฟลิกซ์ถึงจะมีข้อผิดพลาดไปบ้างแต่ไม่ทำให้หนังไม่สนุก พูดง่าย ๆ ก็คือ สนุกละถึงจะมีฉากบ้ง ๆ แต่ก็ให้อภัยได้
ขอบคุณภาพปกจาก Netflix Official Site