Author: Slin

ใครบ้างไม่รู้จักซีรีย์สเปน Money Heist ทรชนคนปล้นโลก หรือ La Casa de Papel ซีรีย์ฮิตทาง Netflix ที่ภาพจำของหลายคนคือกลุ่มคนที่ใส่ชุดสีแดง สวมหน้ากากดาลี่ พร้อมถืออาวุธครบมือ เราไม่เคยดู Money Heist ฉบับออริจินอลหรอก สบายใจได้เลยว่าไม่มีอคติกับเวอร์ชันเกาหลีแน่นอน ในบทความนีจะขอรีวิวแต่เวอร์ชันที่แอดได้ดูเท่านั้นนะคะ Money Heist เกาหลีเนี่ย ก็คือนำเนื้อเรื่องซีซั่น 1 ของเวอร์ชันสเปนมาเลย แต่มีการปรับบริบทให้เข้ากับเกาหลีถือว่าทำได้เนียนกริบ เล่าถึงโจรสาวคนแรกคือ โตเกียว เธอเป็นสาวเกาหลีเหนือที่นั่งรถไฟมาหาฝันที่เกาหลีใต้หลังจากสงครามเกาหลีสิ้นสุดลง แต่ในความเป็นจริงคนอพยพอย่างเธอต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงตัวด้วยการเป็นสาวคาราโอเกะ ถูกนายจ้างลวนลาม จนกระทั่งวันหนึ่งเป็นวันที่เธออดทนถึงขีดสุด เธอได้กลายเป็นฆาตกรหลบหนี และได้รู้จักศาสตราจารย์ ชายที่ชวนเธอมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการมาเป็นโจรปล้นโรงกษาปณ์ด้วยกัน เครดิตภาพจาก Netflix โรงกษาปณ์ก็เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งในซีรีส์ หมายถึงประเทศเกาหลีสองประเทศ เพราะเป็นเขตเศรษฐกิจร่วมของเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้...

RRR (Rise Roar Revolt) เป็นหนังเกี่ยวกับอินเดียยุคที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะตึงเครียด มีเรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แต่สามารถบาลานซ์ได้ดีกับความเป็นหนังแนวมิตรภาพ ให้กำลังใจคนมีความหวัง สู้อุปสรรคกันต่อไปโดยไม่สนใจว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ขอแค่ได้พยายามทำอย่างดีที่สุดก็พอ เราว่าส่วนที่ดีที่สุดของหนังก็คือคู่ดูโอ้รามกับภีมที่แตกต่างกันราวกับน้ำกับไฟ อุดมการณ์ต่างกัน แต่สุดท้ายด้วยพลังมิตรภาพ ทั้งคู่ก็ได้พบว่าเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อชาติอินเดีย การร่วมมือกันต่อสู้ของรามกับภีมจะมันส์ขนาดไหน เชิญรับชมเรื่องราวของเพื่อนที่แสนประทับใจ และฉากบู๊ที่สวยงามแฟนตาซี และมีลีลาพลิ้วไหว อ่อนช้อยทุกท่วงท่า เครดิตภาพจาก Netflix เราชอบเพลงของ RRR เพราะมันเล่าเรื่องได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะตอนที่รามกับภีมได้รู้จักกันครั้งแรกตอนช่วยเด็กจากไฟไหม้ที่สะพาน หลังจากนั้นก็สานสัมพันธ์เป็นเพื่อนกัน นานวันเข้าก็เป็นเพื่อนรักซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวกัน ในเพลงมันใบ้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร มิตรภาพของเพื่อนค่อย ๆ งอกงาม แต่ด้วยอยู่คนละฝ่าย มีอุดมการณ์ต่างกัน จุดจบจะไปอยู่ที่การนองเลือด ฆ่ากันให้ตายไปข้างหรือ? ในเพลงบิวด์อารมณ์มากคอนทราสต์กับภาพความเป็นเพื่อนรักที่รักกันมาก ๆ ของทั้งคู่ เครดิตภาพจาก...

แอนิเมชัน Love Death+ Robots Volume 3 เพิ่งปล่อยออกมาในเดือนพฤษภาคม 2565 นี้ ยังคงความเข้มข้นดิบเถื่อนตามสไตล์ซีรีย์ชุดนี้เหมือนเดิม ประเด็นหลัก ๆ ที่วอลุ่ม 3 พูดถึงส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องปัญหาระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับมนุษยชาติทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสงคราม สัญชาตญาณดิบของมนุษย์ที่โลภและเห็นแก่ตัว ตัณหาราคะ ตามชื่อเรื่องที่มีคอนเซ็ปต์สามอย่าง อันได้แก่ ความรัก (ความรักและความต้องการทางเพศ) ความตาย (บ่งบอกผลของการทำชั่ว ๆ ของมนุษย์ว่าถึงแก่ชีวิต พินาศแน่) หุ่นยนต์ (ความทันสมัย โลกอนาคต ความที่มนุษย์เร่งพัฒนาเทคโนโลยีจนไปไกลลิบ แต่ศีลธรรมกลับถดถอย) ถึงแม้จะดำเนินมาถึงซีซั่นที่ 3 ก็ยังพูดได้คมคายเหมือนเดิม ไม่น่าเชื่อว่ามีเรื่องเล่าแตกแขนงออกมาได้เยอะ และแต่ละเรื่องเส้นเรื่องแข็งแรงมาก ถ้าไม่อคติดีทุกเรื่องเลย ชอบเรื่องไหนก็แล้วแต่ว่าเรารู้สึก relate กับเรื่องไหนมากกว่าเท่านั้นเอง...

จากกระแสที่มีดาราหลายต่อหลายคนคัฟเวอร์เป็นคังคุไบ นางเอกของเรื่อง Gangubai Kathiawadi: หญิงแกร่งแห่งมุมไบ ด้วยชุดส่าหรี่สีขาว ใส่แว่นดำ ให้ลุคเป็นราชินีมาเฟียสวย ๆ จิก ๆ ทำให้เราสนใจค้นหาว่าหนังเรื่องนี้มีดีอะไร ทำไมถึงแมส เครดิตภาพจาก Netflix Gangubai Kathiawadi: หญิงแกร่งแห่งมุมไบ เล่าเรื่องเมืองมุมไบหรือบอมเบย์ (ชื่อเดิม) ในยุค 1960 เรื่องราวก็จะย้อนยุคหน่อย เราจะเห็นได้ความวินเทจได้จากโรงหนังที่มีลักษณะเป็นแบบหนังกลางแปลง และการแต่งตัวที่ดูโบร่ำโบราณของตัวละคร เราชอบการเปิดตัวคังคุ หรือชื่อเดิมคือนางสาวคงคามาก ๆ คือเธอดูเป็นคนสำคัญและทรงอิทธิพลที่สุดในย่านนี้จริง ๆ ขับรถหรูและมีคนมาเปิดประตูให้ คังคุมีราศีคุณนายจับ ณ เวลาปัจจุบัน เธอเป็นคนที่แม่เล้าหรือเจ้าของซ่องต้องฟัง แม่เล้านามว่ารัศมีไบได้เชื้อเชิญคังคุไบมาโน้มน้าวใจเด็กสาวอายุ 15 ที่ถูกสามีหลอกมาขายที่ซ่องให้เป็นโสเภณี เด็กสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศจากลูกค้าเพราะเธอไม่ได้เต็มใจขายบริการ คังคุไบจึงเล่าชีวิตรันทดของตัวเองให้เด็กสาวฟังว่าเธอจะเลือกทางไหนระหว่างสู้เป็นราชินีแห่งซ่องหรือกลับบ้านไปก็ตาย ถูกคนในหมู่บ้านแขวนคอประจาน...

One for The Road ได้สองนักแสดงหนุ่มจากค่าย GDH อย่างไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ และต่อ ธนภพ มาร่วมถ่ายทอดมิตรภาพลูกผู้ชายที่มีทั้งความสุขและขมขื่นแบบ bittersweet เครดิตภาพจาก GDHOne for The Road กำกับโดยบาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ (ผลงานก่อนหน้า : ฉลาดเกมส์โกง) และอำนวยการสร้างโดยหว่อง กาไว เมื่อเริ่มดูหนังเรารู้สึกว่าดูไม่ใช่ทาง ไม่ใช่เทสต์เรายังไงไม่รู้ ต่อรับบทเป็น บอส ลูกคุณหนูเศรษฐีเจ้าของบาร์ที่พัทยา และได้มาบริหารบาร์สาขานิวยอร์ก เขาเป็นบาร์เทนเดอร์และวันไนท์สแตนด์กับสาว ๆ ไม่ซ้ำหน้า ใช้ชีวิตเสเพลไปวัน ๆ ทว่าพอมีตัวละครอีกตัวโผล่มาคือ อู๊ด (ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์) กลับสะกดให้เราอยากดูต่อ...

ข่าวดีสำหรับคนที่ชอบซีรีย์แฟนตาซีแนวเส้นแบ่งระหว่างชีวิตกับความตายอย่าง Hotel Del Luna และ Goblin ตอนนี้เรามีซีรีย์ที่ต้องปักในลิสต์เพิ่มอีกเรื่อง นั่นคือ Tomorrow ทีมของตัวเอกจะเป็นยมทูตทั้งหมดเลย แล้วยมทูตแต่ละคนก็มีความโก๊ะกัง ความฮารั่ว แบบที่ทำให้ซีรีย์ที่เป็นแนวชีวิตกลายเป็นซีรีย์คอเมดี้ในบัดดล เพราะความจี้ของพวกเขา เครดิตภาพจาก MBC ชเวจุนอุง รับบทโดย โรอุน ยมทูตน้องใหม่ จริง ๆ วิญญาณของเขายังไม่ถึงที่ตาย แค่โคม่าเฉย ๆ จากการช่วยชีวิตคนโดดแม่น้ำฮัน แต่ด้วยความผิดพลาด เขาเลยตกสะพาน ประธานบริษัทนรกเลยเสนอให้เขาทำงานเป็นยมทูต 6 เดือน แลกกับการฟื้นใน 6 เดือน ไม่ต้องนอนโคม่า 3 ปี และยังได้งานที่ดีหลังปิดจ็อบในนรกอีกด้วย ดีลดีขนาดนี้จุนอุงต้องรับข้อเสนออยู่แล้ว เขาได้มาอยู่ทีมจัดการวิกฤตกับรยอน ทำให้เขามีโอกาสได้เรียนรู้ความยากลำบากในชีวิตของคนอื่น...

หนังรักของญี่ปุ่นชอบดูกันไหมคะ เราเป็นแฟนหนังประเภทนี้เลย อยากดูทุกเรื่องที่เข้าโรงหนังเลยค่ะ เพราะเค้าทำได้ซึ้งประทับใจมาก ๆ ญี่ปุ่นจะชอบทำฉากเดตกันน่ารัก ๆ และมีการสารภาพรักที่ชวนฝัน ความโรแมนติกก็ไม่น้อยหน้าใคร รักแบบรักแท้ รักจนวันตาย แต่หนังรักญี่ปุ่นจะโรแมนติกอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ของแท้ จะต้องมีความเศร้าแบบหน่วง ๆ ปวดตับกันไปด้วย ใครที่เคยดู Let Me Eat Your Pancreas หรือ Tomorrow I Will Date The Yesterday’s You คงเข้าใจดี สำหรับ Love Like The Falling Petals หรือถ้าจะให้เราแปลคือ รักเหมือนดอกซากุระที่ร่วงโรย มีพล็อตเรื่องที่เหมือนจับสองเรื่องดังที่กล่าวไปแล้ว (Let Me...

Bridgerton ซีรีย์แนวน้ำเน่าสไตล์ผู้ดีอังกฤษก็จะเป็นแนวพีเรียดแบบผู้หญิงใส่กระโปรงสุ่ม รัดเอวคอด มีลอร์ด เลดี้ ดยุค ดัชเชส และคุณหนูตระกูลต่าง ๆ โดยในซีซั่นแรกนี้ Bridgerton จะโฟกัสไปที่ตัวนางเอกหรือดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน หญิงที่สวยที่สุดในลอนดอนตามที่ราชินีแห่งอังกฤษขนานนามให้เธอเป็นเพชรน้ำหนึ่ง การที่ดาฟนี่มีเสน่ห์น่ารักจนราชินีเอ็นดู ทำให้เธอกลายเป็นคนดังที่เลดี้วิทเซิลดาวน์ขาเม้าท์ประจำคอลัมน์ซุบซิบเขียนถึงอยู่เนือง ๆ เครดิตภาพจาก Bridgertonnetflix ดาฟนี่มีพี่ชายชื่อแอนโทนี บริดเจอร์ตัน เขาเป็นพี่ชายคนโตที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อที่เสียชีวิต แอนโทนีได้ตกปากรับคำยกดาฟนี่ให้กับลอร์ดเบอร์บรูคชายที่มีรูปร่างเตี้ยและอัปลักษณ์ ทำให้ดาฟนี่ไม่พอใจที่พี่ชายทำอะไรไม่ถามความสมัครใจของเธอ ดาฟนี่ปฏิเสธลอร์ดเบอร์บรูคจนเขาจะขืนใจเธอ แต่โชคดีที่ดยุคแห่งเฮสติงส์ หรือไซมอน บาสเซ็ตมาพบและช่วยเธอไว้ ดยุคไซมอนยื่นข้อเสนอให้เธอมาเป็นแฟนหลอก ๆ กับเขา เพื่อให้เขาไม่ต้องถูกหมายปองจากเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่แม่ยกคนหล่อ และเธอก็จะได้มีชายหนุ่มมาหมายปองและได้แต่งงานสมใจ เพราะผู้ชายชอบแข่งขัน เอาชนะ อยากครอบครองหญิงสาวที่เดินควงกับดยุค ดาฟนี่ยินดีทำตามข้อเสนอของเขาด้วยการควงกันออกงานสังคมหลายครั้ง จนดาฟนี่ชอบดยุคไซมอนจนเก็บทรงไม่อยู่ เผยความในใจออกมา ดยุคไซมอนปฏิเสธเพราะเขามีปมตอนเด็กเกี่ยวกับครอบครัว ทำให้เขาไม่อยากมีพันธะกับใคร...

Thirty-Nine เล่าเรื่องชีวิตของผู้หญิงวัยจะขึ้นเลขสี่ที่เป็นเพื่อนรักกันทั้งสามคน พวกเธออยู่ด้วยกันมาครึ่งค่อนชีวิต เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อายุ 17 ปี ยี่สิบสองปีที่พวกเธอเป็นเพื่อนก็ผ่านทุกข์สุขมาด้วยกัน มีดีกัน ผิดใจ ทะเลาะกันตามประสาคนที่สนิทกันมาก ๆ แต่ด้วยความเหนียวแน่นของมิตรภาพ พวกเธอก็จะทำความเข้าใจอีกฝ่ายและให้อภัยได้ตลอด Thirty- Nine เป็นซีรีย์ให้กำลังใจคนที่กำลังเหนื่อยกับชีวิตได้ดีเลย ดูแล้วเราจะนึกถึงเพื่อน ครอบครัว คนที่เรารักที่จะเข้ามาปลอบเราเวลาเราเจอปัญหาที่แก้ไม่ตก เนื้อเรื่องมีความเรียบง่ายมาก ๆ โดยแก่นเรื่องก็พูดถึงความรักของผู้หญิงวัยหลักสี่นั่นแหละ เครดิตภาพจาก JTBC Drama ผู้หญิงวัยหลักสี่จะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เราอาจจะนึกถึงช่วงวัยรุ่นแบบ Our Beloved Summer ช่วงวัยนั้นก็สวยงาม เป็นช่วงที่ใครเรียกว่าหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงวัยทำงานแบบ Be Melodramatic ของสาววัยสามสิบที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านการงาน เริ่มเป็นหัวหน้า มีลูกน้อง มีความรักที่ผ่านเข้ามา วัยสามสิบที่ผู้หญิงมักจะนึกถึงมากกว่าวัยสี่สิบ เพราะคำกล่าวที่ว่าผู้หญิงจะสวยที่สุดก็ตอนอายุสามสิบ...

คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้ สร้างมาจากนิยายวายยอดนิยมของนักเขียนหนุ่ม Hungrybird (นิยายคุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคุณไข้สามารถหาตัวอย่างอ่านได้ในเว็บไซต์เด็กดี และตีพิมพ์แล้ว) พล็อตมีความน่าสนใจมากเพราะเป็นการเจาะลึกอาชีพแบบซีรีย์เกาหลีแบบที่คนไทยชอบกัน ซีรีย์คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้ เป็นซีรีย์แนวการแพทย์ที่มีการผ่าตัด และให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหรืออาการของคนไข้ เช่น คนไข้ที่กำลังจะตายความดันจะตกลงมากกว่าปกติ คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคไตต้องรอรับบริจาคไตที่เข้ากันได้กับร่างกายคนไข้ เครดิตภาพจาก Studio Wabi Sabi เราคาดหวังว่าซีรีย์เรื่องนี้จะให้ข้อมูลการแพทย์ที่ถูกต้องเพราะเขามีที่ปรึกษาคือเพจแพทย์สาว เราดูตอนแรกแล้วรู้สึกว่าเป็นพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ของละครไทยเลยที่ทำอาชีพเฉพาะทางอย่างอาชีพหมอ ความสนุกคืออาชีพของหมอ (นายเอก) มีความขัดแย้งกับอาชีพของพระเอกที่เป็นยมทูต หมอปราการเป็นคนมีซิกเซ้นส์เห็นยมทูต เขาจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ยมทูตมาปรากฏตัวทุกครั้งที่เขากำลังช่วยชีวิตคน เครดิตภาพจาก Studio Wabi Sabi ขณะที่คุณยมทูตชอบมาหาหมอปราการ เพราะแอบชอบหมอปราการตั้งแต่หมอปราการยังเด็ก เพราะเมื่อยี่สิบปีก่อนยมทูตไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านพ่อหมอปราการ (ไม่ได้อ่านนิยาย เดาว่ามารับแม่หมอปราการ เพราะตอนนี้พ่อหมอปราการยังมีชีวิตอยู่) แล้วได้เจอกับหมอปราการที่เอาก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ถึงยมทูตจะรับรสอาหารไม่เหมือนมนุษย์ (กินก๋วยเตี๋ยวแล้วรู้สึกขม) แต่เขาก็มาทุกวันเพราะมีความประทับใจในตัวปราการ เครดิตภาพจาก...