หนังเกาหลี The 8th Night ทริลเลอร์ผีสิงจาก Netflix

กดแชร์เบาๆที่นี่จ้า^^

ช่วงเดือนกรกฎาคม 64 นี้ เหมือนเป็นเทศกาลหนังผีของ Netflix เสียจริง เรื่องที่ติดอันดับ Top Ten ในช่วงนี้ ครึ่งหนึ่งก็เป็นหนังผี อาทิ ผีชีวะ (Resident Evil) และ Fear Street ที่ตอนนี้ออกมาได้ 2 ภาค คือ Fear Street 1994 และ Fear Street 1978 ทำเป็นแนวผีย้อนยุคยุค 80-90 เทรนด์หนังผีสไตล์โบราณจะกลับมาป็อปอีกหนก็เป็นได้

นัมดารึม รับบทเป็น พระแชซอกหรือซองฮุน พระอายุน้อยกำพร้าพ่อแม่ได้หลวงพ่อฮาจองชุบเลี้ยงในวัด
นัมดารึม รับบทเป็น พระแชซอกหรือซองฮุน พระอายุน้อยกำพร้าพ่อแม่ได้หลวงพ่อฮาจองชุบเลี้ยงในวัด

เครดิตภาพจาก Netflix

The 8th Night เป็นหนังเกาหลีที่เน็ตฟลิกซ์ผลิตเอง คนไม่ชอบดูหนังผี กลัวผี และไม่มีประสบการณ์ดูหนังผีเยอะ ๆ ก็ดูได้เข้าใจ The 8th Night อิงความเชื่อทางพุทธศาสนามหายาน เห็นได้จากพระพุทธรูปมีหน้าตาแบบพระโพธิสัตว์ แต่ในเรื่องเรียกว่าพระพุทธเจ้าเหมือนกับที่คนไทยเรียกพระพุทธเจ้าสิทธัตถะ ในตอนต้นเรื่องได้อธิบายไว้เสร็จสรรพว่าปีศาจมีอยู่สองตนคือ ดวงตาสีเลือดกับดวงตาสีนิล พระพุทธเจ้าได้แยกทั้งสองปีศาจออกจากกันและเก็บไว้ในกล่องสรีรธาตุ ดวงตาสีเลือดเก็บไว้ทางตะวันออกคือทะเลทราย ดวงตาสีนิลเก็บไว้ที่ภูเขาพุกซานแห่งทิศตะวันตก ตอนดูขัดใจนิดหน่อยว่าทำไมพระพุทธเจ้าไม่ฆ่าปีศาจ เล่นเก็บไว้ในผอบแบบนี้ เดี๋ยวก็มีคนมาขุดเจอ ในเรื่องไม่ได้บอกไว้ แต่ถ้าเราคิดคือพระพุทธเจ้าไม่อยากทำบาป

ลีซองมิน รับบทเป็น หลวงพ่อซอนฮวาหรือพัคจินซู อดีตพระหมอผีที่หนีไปจากกุฏิเมื่อสิบปีก่อน
ลีซองมิน รับบทเป็น หลวงพ่อซอนฮวาหรือพัคจินซู อดีตพระหมอผีที่หนีไปจากกุฏิเมื่อสิบปีก่อน

เครดิตภาพจาก Netflix

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อมีศาสตราจารย์คิมดันทะลึ่งไปขุดดวงตาสีเลือดมาจากทะเลทรายในปี 2005 ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อว่าเป็นของจริงเพราะตรวจคาร์บอนแล้วอายุไม่ถึง 2,500 ปี ด้วยความเจ็บใจอีก 14 ปีต่อมา ศาสตราจารย์คิมได้เลี้ยงดวงตาสีเลือดด้วยเลือดมนุษย์ จนกระทั่งดวงตาสีเลือดออกอาละวาด ศาสตราจารย์คิมได้กู้ชื่อว่าพบดวงตาปีศาจสีเลือดจริง ๆ แต่ศาสตราจารย์คิมก็ปิดฉากชีวิตตัวเองลง

คิมยูจอง รับบทเป็น แอรัน คนทรงเจ้าสาวพรหมจรรย์ที่กุมความลับของดวงตาสีเลือด
คิมยูจอง รับบทเป็น แอรัน คนทรงเจ้าสาวพรหมจรรย์ที่กุมความลับของดวงตาสีเลือด

เครดิตภาพจาก Netflix

ณ วัดพุกซานมีพระวัยรุ่นคนหนึ่งชื่อแชซอก เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฮาจอง หลวงพ่อสั่งไว้ก่อนมรณภาพให้พระแชซอกออกตามหาหลวงพ่อซอนฮวาที่หนีจากกุฏิไปเป็นสิบปี พระแชซอกก็ออกเดินทางไปเจอหลวงพ่อซอนฮวาที่เป็นฆราวาสแล้ว หลวงพ่อซอนฮวาหรือชื่อจริงคือจินซูบอกว่าปีศาจจะต้องข้ามหินเจ็ดก้อนเพื่อไปเจอดวงตาสีนิล เราจะต้องฆ่าหินก้อนสุดท้ายนั่นคือคนทรงเจ้าสาวพรหมจรรย์ ขณะเดียวกับที่ดวงตาสีเลือดออกอาละวาดฆ่าคนเป็นว่าเล่น เหยื่อก็คือโดนสิงเหมือนข้ามหินแต่ละก้อนเพื่อไปหาเป้าหมาย ทุกครั้งที่ข้ามไปร่างคนอื่น มันจะทำให้ร่างเดิมเน่าเปื่อย การสิงของปีศาจดวงตาสีเลือดเนี่ยเหมือนกับการวิ่งผลัดส่งไม้ยังไงยังงั้น ในเรื่องก็มีตำรวจออกตามสืบเรื่องราวคดีคนตายประหลาดด้วยนะ และหาความเชื่อมโยงของแต่ละศพว่ามีหน้าผากเป็นรูเหมือนกัน

พัคแฮจุน รับบทเป็น นักสืบคิมโฮแท นักสืบที่ตามสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโรงแรมจิ้งหรีด
พัคแฮจุน รับบทเป็น นักสืบคิมโฮแท นักสืบที่ตามสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโรงแรมจิ้งหรีด

เครดิตภาพจาก Netflix

แต่ก็เหมือนกับหนังสืบสวนทุกเรื่อง ถ้าตัวเอกไม่ใช่ตำรวจ ตำรวจจะทำงานใช้ไม่ได้ ไม่มีประโยชน์จนตัวเอกต้องมาสืบเอง ตำรวจในเรื่องนี้ช้ากว่าคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ ปีศาจก็ฆ่าคนได้สนุกสนานและมันก็ตามหาคนทรงเจ้าสาวพรหมจรรย์ แต่คนทรงเจ้าก็หนีได้ทุกรอบ

ระหว่างที่ทำภารกิจยับยั้งดวงตาสีเลือด พระแชซอกกับพัคจินซูก็สนิทกันมากขึ้น
ระหว่างที่ทำภารกิจยับยั้งดวงตาสีเลือด พระแชซอกกับพัคจินซูก็สนิทกันมากขึ้น

เครดิตภาพจาก Netflix

ช่วงแรกของหนัง The 8th Night น่าเบื่อจะหลับ เพราะเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงว่าปีศาจเห็นใครก็สิงดะ เจอใครก็กัดคออย่างกับเป็นซอมบี้ แป๊บเดียวก็เข้าวันที่สามแล้ว เพราะฆ่าคนไปสามคน (ข้ามหินไปสามก้อน) ทีมนักสืบก็ไม่ได้ความอะไรนอกจากรู้ความสัมพันธ์ว่าหัวหน้ากับลูกน้องนักสืบเขาสนิทกันเพราะหัวหน้าเคยช่วยชีวิตและหางานทำให้มาเป็นตำรวจ ฝ่ายทีมพระเอกก็เดินเล่นกินขนมไปเรื่อย ๆ เอื่อยเฉื่อย ปูความสัมพันธ์ของจินซูกับแชซอก มาเริ่มสนุกตอนที่ปีศาจในร่างเด็กนักเรียนหญิงเริ่มไล่ล่าจินซู แล้วเรื่องมันพลิกที่คนถูกกัดไม่ใช่คนที่เราคิด แล้วเรื่องก็เริ่มมีให้ลุ้นระทึกนิดหน่อย ก่อนจะตัดไปที่พระแชซอกที่แอบไปช่วยคนทรงหนีจากจินซู ตอนที่เฉลยจุดหักมุมสำคัญของเรื่องจริง ๆ มันว้าวนะ แต่จังหวะมันไม่ได้ แทนที่จะตบเข่าฉาด กลับเป็นเสียงเบา ๆ ว่าอ้าวเหรอ เป็นอย่างนี้เองเหรอ เพราะความจงใจมากเกินไป อะไรมันจะลงล็อกพอดีขนาดนั้น คนดูก็รู้สึกว่าคนเขียนบทไม่ได้บอกใบ้มาเลยนี่นา อยู่ดี ๆ มาเฉลยตูมเดียว นึกว่าขับรถแหกโค้ง หักมุมไม่ค่อยสมูทเลย The Best Scene ของเรื่องนี้ขอยกให้ฉากวันที่ 8 ดีที่เรื่องราวในคืนที่ 8 เล่าดีมากก็จะได้ไม่เสียชื่อที่ตั้งชื่อหนังว่า The 8th Night ตรงจุดนี้ขอคารวะคนเขียนบทเลยว่าสามารถพลิกชะตากรรมของตัวเอกทั้งสองได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วก็ได้ผล เซอร์ไพรส์จริง จากตอนที่ตัวเอกจะมีแต้มต่อก็กลายเป็นเสียเปรียบตัวร้ายซะงั้น ฉากไล่กัดก็ลุ้นดีตัดไปตัดมาไม่รู้ว่าพระถูกกัดหรือไม่กันแน่ แล้วก็มีเงื่อนไขในการจบแบบนี้ที่เรารับได้เพราะเรื่องนี้พูดถึงการหลุดพ้นจากกิเลสไปสู่นิพพาน เรื่องราวความสัมพันธ์ของจินซูกับแชซอกมันปูมาตั้งแต่ต้นและเรื่อย ๆ รายทางตลอดมาทำให้จบแบบนี้ได้ คนดูบางคนอาจจะผิดหวังเพราะมันไม่ใช่หนังผีที่น่ากลัวเลยสักนิด และเหมือนตอนจบจะจบง่าย ๆ ดื้อ ๆ แต่สำหรับเรา เราไม่ได้ต้องการตอนจบที่จบหักมุมแบบแค่อยากจะหักมุมแต่ไม่สมเหตุสมผล ตอนจบที่ดีควรสอดรับกับแก่นของเรื่องจึงจะสื่อไอเดียออกมาได้ชัดต่างหาก ซึ่งเรื่อง The 8th Night จะสื่อเรื่องการละวางความโกรธแค้น ความว้าวุ่นใจที่ทำให้ไม่สงบ กิเลสด้านความรักที่สูญเสียครอบครัวทั้งหมดแล้วยังละวางไม่ได้ เราชอบหนังเรื่องนี้นะถึงจะมีช่องโหว่หลายจุด แต่โดยรวมหนังก็ทำได้สนุก ดูต่อเนื่องได้และไม่สูญเสียมู้ดแอนด์โทนของหนัง

ขอบคุณภาพปกจาก Netflix

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save