หนังเกาหลี Kingdom : Ashin of The North รับชมได้ทาง Netflix

กดแชร์เบาๆที่นี่จ้า^^

ซีรีย์เกาหลียอดฮิตเรื่องหนึ่งของ Netflix ที่ปังทั้งซีซั่น 1 และซีซั่น 2 คงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจาก Kingdom เนื้อเรื่องของ Kingdom เกิดขึ้นในยุคโชซอน พูดถึงเรื่องราวการชิงบัลลังก์ของราชวงศ์ในยุคนั้นที่ต้องแก้ปัญหาการเมืองและปัญหาเรื่องโรคระบาดที่ทำให้คนตายแล้วฟื้นคืนชีพเป็นซอมบี้ไล่ฆ่าคน

จอนจีฮยอน รับบทเป็น อาชิน สาวนักรบแห่งเผ่าเหนือ ผู้ที่ใช้สมุนไพรคืนชีพคนที่ตายไปแล้วให้มาฆ่าชาวโชซอน
จอนจีฮยอน รับบทเป็น อาชิน สาวนักรบแห่งเผ่าเหนือ ผู้ที่ใช้สมุนไพรคืนชีพคนที่ตายไปแล้วให้มาฆ่าชาวโชซอน

เครดิตภาพจาก Netflix

ก่อนจะเล่าถึงหนัง Kingdom : Ashin of The North คงต้องเท้าความถึงซีซั่น 1 และซีซั่น 2 สักเล็กน้อย ซีซั่น 1 ตัวเอกคือองค์ชายอีชางที่เป็นลูกสนมพระราชา องค์ชายอีชางมีชีวิตที่อาภัพตั้งแต่เด็ก (ในซีรีย์ไม่มีเล่าตอนองค์ชายเด็ก แต่ทาง Netflix เพิ่งประกาศว่าจะมีหนังภาคต่อจากภาค Ashin of the North เป็นอัตชีวประวัติขององค์ชายอีชาง) ทำให้องค์ชายมีความต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าถึงจะเป็นแค่ลูกสนม แต่ก็มีความรักแผ่นดินและมีความสามารถในการรวมอาณาจักรให้เป็นปึกแผ่น องค์ชายอีชางพยายามสู้เคียงข้างผู้คนที่เหลืออยู่และตามหาหมอหญิงที่รู้ความลับของการกลายเป็นซอมบี้ เพราะหมอหลวงที่รักษาพระราชาให้ฟื้นได้ใช้สมุนไพรวิเศษ ซึ่งก่อนที่หมอหลวงจะตายได้ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกศิษย์ก็คือหมอหญิง (ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมพระราชาต้องกลายเป็นซอมบี้ ใครบังอาจปลุกพระราชาก็ต้องไปดูในซีซั่น 1 เอาเอง)

เรื่องราวใน Kingdom ซีซั่น 1 ได้เชื่อมร้อยกับ Kingdom ซีซั่น 2 พอดี ซีซั่น 2 จะพูดถึงการเดินทางขององค์ชายอีชางสลับกับการเดินทางของหมอหญิง ภาคนี้องค์ชายอีชางไม่ค่อยเด่น แต่มีความตื่นเต้นคือมีคนที่ป่วยและกลายเป็นซอมบี้แต่แสดงอาการช้าหนีขึ้นมาบนเรือด้วย มีฉากต่อสู้ที่มันส์ลุ้นทุกนาที และนอกจากนี้เราก็ได้รู้ความลับของซอมบี้เพิ่มด้วยว่า จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ฟื้นกลางคืน ตายตอนกลางวัน ปัจจัยการคืนชีพไม่ได้อยู่ที่แสงอาทิตย์ แต่อยู่ที่อุณหภูมิ ในช่วงหน้าหนาวจะเห็นว่าซอมบี้จัดการยากกว่า เพราะตอนกลางวันที่ไม่ร้อน ซอมบี้ก็ไม่ตาย ไล่ตามมาได้อยู่ดี จุดอ่อนของซอมบี้อย่างเดียวก็คือน้ำ ดังที่องค์ชายอีชางรอดมาได้เพราะเลือกที่จะโดดลงน้ำ ทางด้านหมอหญิงที่ไม่มีอาวุธอะไรเลย ก็หนีเก่งอย่างเว่อร์วังแบบไร้บาดแผล แถมหมอหญิงยังเก่งขนาดที่หาภูเขาที่มีสมุนไพรคืนชีพเจออีกต่างหาก หมอหญิงเป็นกุญแจสำคัญที่นำองค์ชายอีชางไปเจออาชินสาวเผ่าเหนือนักรบที่อยู่เบื้องหลังความวายป่วงของโชซอนในตอนท้ายของ Kingdom ซีซั่น 2

พัคบยองอึน รับบทเป็น มินจีรอก ผู้นำกองบัญชาการทัพหลวงของโชซอน
พัคบยองอึน รับบทเป็น มินจีรอก ผู้นำกองบัญชาการทัพหลวงของโชซอน

เครดิตภาพจาก Netflix

ตอนจบของ Kingdom ซีซั่น 2 เป็น Talk of the Town ที่นักแสดงสาวสุดฮอตอย่างจอนจีฮยอนได้มาปรากฎตัวในโปรเจ็กต์ซีรีย์ Kingdom ด้วย แน่นอนว่า Netflix ก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าจะเล่าเรื่องราวของสาวปริศนาที่ดูลึกลับคนนี้ต่อ และในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 Netflix ก็ได้ออนแอร์ Kingdom: Ashin of the North ไทม์ไลน์จะอยู่ในสมัยที่อาชินยังเป็นเด็ก อาชินเป็นเด็กหญิงชนเผ่าพาจอวีหนี่เจินซึ่งเป็นชนเผ่าทางเหนือของดินแดนโชซอน อาชินได้รู้เรื่องสมุนไพรคืนชีพโดยบังเอิญเพราะไปเห็นกวางกินสมุนไพรแล้วคลุ้มคลั่ง มีความดุร้าย แต่กวางซอมบี้ก็ถูกนักล่าอย่างเสือโคร่งกิน (ถ้าใครยังจำทฤษฎีการเกิดซอมบี้ในซีซั่น 1 ได้ กวางถูกปลุกด้วยการกินสมุนไพรโดยตรงจะเป็นซอมบี้ แต่ถ้ากวางไปกัดคน คนจะตายแต่ไม่กลายเป็นซอมบี้แต่เป็นพาหะถ้าคนถูกกิน ทีนี้เสือกินกวางซอมบี้ เพราะฉะนั้นเสือจะกลายเป็นเสือซอมบี้ และถ้าไปกัดคน คนที่เสือกัดก็จะกลายเป็นซอมบี้และแพร่เชื้อได้) อาชินได้เห็นคนเขียนอักษรบนผนังถ้ำว่าสมุนไพรนี้คืนชีพได้ แต่มีราคาที่ต้องจ่าย อาชินอยากได้สมุนไพรคืนชีพไปให้แม่ของเธอ แม่ของอาชินตายเพราะไปในพื้นที่ต้องห้ามอย่างพเยซากุน พ่อของอาชินดุอาชินว่าอาชินจะไม่ปลอดภัยถ้าขึ้นไปที่ภูเขาลูกนั้นอีก

ตัดมาที่ฝั่งโชซอน มีแม่ทัพที่เป็นคนตระกูลแฮวอนโจ (ถ้าใครดู Kingdom แล้ว แฮวอนโจก็คือตระกูลของพระมเหสีที่มีพ่อเป็นเสนาบดีที่ไม่ถูกกับองค์ชายอีชาง เพราะการเกิดขององค์ชายอีชางขัดผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูล) คนตระกูลแฮวอนโจก็คือคนเลว จำง่าย ๆ มีทหารนายหนึ่งที่รู้ว่าการตายของทหารพาจอวีหนี่เจินไม่ปกติ เพราะกองทัพของชนเผ่าแข็งแกร่งมากและอยู่กับสัตว์ป่า ไม่มีทางที่เขาจะแพ้เสือ ถูกเสือกินแบบที่ทางการปล่อยข่าวลือ คนที่มีฝีมือมากกว่าชาวพาจอวีหนี่เจินจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกองกำลังหลวงโชซอนที่แข็งแกร่ง แม่ทัพเป็นคนบงการจึงสังหารคนที่มาเตือนอย่างเหี้ยมโหด เพื่อที่ความลับจะได้เป็นความลับตลอดกาล เขาจะได้หลอกใช้ชาวพาจอวีหนี่เจินต่อไปให้จงรักภักดีกับโชซอนมาก ๆ ให้คิดว่าเสือกินไป ไม่ต้องคิดว่าศัตรูคือโชซอนที่พวกเขามอบกายถวายชีวิตเป็นหน่วยรบ

คิมรเวฮา รับบทเป็น ทาฮับ พ่อของอาชิน เป็นนักรบชาวพาจอวีหนี่เจิน มีหน้าที่เป็นไส้ศึกแฝงตัวเข้าไปในกองทัพโชซอน
คิมรเวฮา รับบทเป็น ทาฮับ พ่อของอาชิน เป็นนักรบชาวพาจอวีหนี่เจิน มีหน้าที่เป็นไส้ศึกแฝงตัวเข้าไปในกองทัพโชซอน

เครดิตภาพจาก Netflix


แต่แล้วพ่อของอาชินที่ทำงานเป็นสปายก็ถูกจับได้และหายตัวไป อาชินตามหาพ่อพบว่าพ่อถูกล่ามโซ่ทรมานอยู่และพ่อขอให้เธอช่วยฆ่าพ่อเพื่อจบความทรมานนี้ อาชินทำตามที่พ่อต้องการทั้งน้ำตา และอาชินก็ได้รู้ว่าคนที่หักหลังเธอคือคนที่เธอไว้ใจมากที่สุด อาชินไม่เหลือใครแล้ว อาชินจึงใช้ชีวิตด้วยการแก้แค้น ด้วยการใช้ความรู้สมุนไพรที่มีคืนชีพคนในบ้าน อาชินสัญญากับตัวเองว่าเธอจะล้างแค้นโชซอนให้ราบเป็นหน้ากลอง เมื่อเธอทำภารกิจลุล่วงแล้ว เธอจะตายตามครอบครัวไปอยู่ ณ โลกหน้า

คูคโยฮวัน รับบทเป็น ไอดากัน หัวหน้าเผ่าพาจอวีหนี่เจินที่มีความแข็งแกร่งทางการรบมากแบบที่โชซอนต้องหวาดกลัว
คูคโยฮวัน รับบทเป็น ไอดากัน หัวหน้าเผ่าพาจอวีหนี่เจินที่มีความแข็งแกร่งทางการรบมากแบบที่โชซอนต้องหวาดกลัว

เครดิตภาพจาก Netflix

จากการชม Kingdom : Ashin of the North ผู้เขียนรู้สึกได้ว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจและต้องดูเพื่อไปสู่ Kingdom ภาคต่อไป แต่ไม่ดูก็ไม่เป็นไร หาอ่านเรื่องย่อเอาก็ได้ว่าอาชินมีชีวิตยังไง เพราะตัวหนังทำได้ไม่ค่อยดี การเล่าเรื่องค่อนข้างอืดอาดยืดยาด เหมือนไม่เข้าใจจิตวิทยาของแฟนหนัง Kingdom คนที่อยากดู Kingdom ภาคนี้คือ มีความชอบในเรื่อง Kingdom อยู่แล้ว เพิ่มเติมคืออยากเห็นจอนจีฮยอนแสดงเยอะ ๆ แต่ปรากฎว่าหนังเล่นเล่าพาร์ตเด็กเสียตั้ง 1 ชั่วโมง แถมช่วงที่อาชินเป็นสาว (แสดงโดย จอนจีฮยอน) ก็มีฉากออกน้อยนับฉากได้ แล้วยังไม่อิมแพ็คอีก คือจอนจีฮยอนได้ใส่ชุดนักรบเท่ ๆ แต่ไม่ได้มีอะไรที่น่าจดจำเลยนอกจากฉากจบที่พูดทิ้งท้ายว่าจะล้างแค้น Netflix ยังดึงยืดให้ไปดูซีรีย์ตัวเต็มของ Kingdom ที่จะมีในอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะออนแอร์เมื่อไหร่อีก สิ่งที่น่าหงุดหงิดอีกอย่างก็คือเหมือนคนทำหนังไม่รู้จักคนดูของตัวเอง ทั้งที่ซีซั่น 1 กับซีซั่น 2 ทำดีมาตลอด รู้จักเล่นกับอารมณ์ของคนดู มีฉากสยอง มีฉากตื่นเต้น มาภาคนี้ก็รู้อยู่ว่าเป็นอดีตก่อนที่รู้จักใช้สมุนไพรสร้างซอมบี้ แต่การที่แทบไม่มีฉากซอมบี้คนไล่กัดคนและวิ่งหนี ที่กลายเป็นจุดขายของซีรีย์เรื่อง Kingdom ไปแล้ว ทำให้หนังภาคนี้จืดสนิท ภาพเสือซอมบี้กัดคนก็รุนแรงอยู่ แต่ภาพเสือขย้ำคนกินนี่แทบไม่โชว์ความเป็นซอมบี้เลย เพราะธรรมชาติของเสือมันก็กินคนอยู่แล้ว ความชัดเจนของซอมบี้มันเลยหายไป ถึงแม้เรื่องในต้นฉบับมันอาจจะไม่มี แต่ในฐานะคนทำหนังสามารถสร้างฉากมาเร้าอารมณ์คนดูได้ว่าคนที่ถูกเสือกัดหรือทหารที่ไม่มีอะไรกิน ไปเผลอกินสมุนไพรคืนชีพเข้า ก็กลายเป็นซอมบี้ไล่ฆ่าคนในกองทัพหรืออยู่ดี ๆ ก็ฆ่าทหารโชซอนตายหมดเลย ดูเรื่องนี้รู้เรื่องเพราะมันเล่าง่าย ๆ แต่ก็จะหลับอยู่หลายรอบ ภาคนี้เป็นภาคของอาชินก็จริง (องค์ชายอีชางกับหมอหญิงไม่เกี่ยว ไม่มีสิทธิ์มาโผล่ในเรื่องนี้) แต่การให้คนดูจำตัวละครใหม่ทั้งหมดค่อนข้างเป็นภาระแก่คนดูพอสมควร ทำให้คนดูรู้สึกต่อไม่ติด จริง ๆ แล้วถ้าใช้ตัวละครเก่า เช่น เสนาบดีแฮวอนโจ ที่ไทม์ไลน์ซีซั่น 1 แก่แล้ว อยู่ในยุคนี้แน่ ๆ และถ้าจะให้เดาแม่ทัพแฮวอนโจคนนี้คือเสนาบดีแฮวอนโจหรือเปล่าก็ไม่แน่ สมมติว่าจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ใช่คนเดียวกันก็น่าจะให้มีบทบาทเยอะกว่านี้ สลับกับพาร์ตของนางเอกแบบช็อตต่อช็อตแบบแก้เกมกัน แนวกลยุทธ์น่าจะมันส์ หนังเงียบไปเต็มไปด้วยการสูญเสียของนางเอก และนางเอกในวัยเด็กก็ยังแสดงไม่ค่อยดี ดูเสียใจแต่ไม่ดูแค้น เหมือนโตปุ๊บเพิ่งจะมีความแค้น ผู้เขียนคิดว่า Kingdom: Ashin of the North ไม่สนุกเลย สามารถรวบให้เหลือ 20 นาทีได้ ทำเป็น flashback ของภาคหลักยังได้เลย แต่ในเมื่อคิดจะทำเป็นภาคแยกเพื่อสมนาคุณแฟนหนังแล้ว ก็ควรจะเล่าพาร์ตตอนเด็กให้สั้นกว่านี้ ควรให้นางเอกจอนจีฮยอนปรากฎตัวตั้งแต่แรก แล้วค่อย ๆ เล่าย้อนในวัยเด็กแบบ flashback ตัดสลับมาปัจจุบันตอนโตมายังจำความรู้สึกที่สูญเสียพ่อได้ดี ถ้า Kingdom: Ashin of the North เปลี่ยนลำดับการเล่ายกกระบิก็คงดี เล่าแบบค่อย ๆ เผยความลับทีละส่วน หาคนมาคุยกับนางเอก เช่น อาจจะเป็นเชลยโชซอนที่นางเอกจับได้ หนังก็จะลื่นไหลขึ้นมาก เรื่องที่เล่าแบบ Flashback ดี ๆ ก็อย่างเรื่อง Along with the Gods ถ้า Kingdom: Ashin of The North เล่าแบบเรื่องนั้น เราว่าจะกลายเป็นหนังดีน่าดูไปเลย เพราะหนังก็มีเนื้อหาสาระอยู่ แค่เล่าไม่ค่อยโดน ใครที่เป็นแฟน Kingdom ก็ดูเถอะค่ะ แต่อย่าคาดหวังว่ามันจะดีเท่าซีรีย์นะคะ

ขอบคุณภาพปกจาก Netflix

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save