ซีรีย์เกาหลี The Witch’s Diner ร้านอาหารแม่มด รับชมได้ที่ WETV
ใครชอบซีรีย์แนวแฟนตาซีลึกลับต้องกรี๊ด เพราะซีรีย์ The Witch’s Diner ซีรีย์แนวแม่มดได้มาให้ชมทาง WETV แล้ว หลังจากห่างหายจากซีรีย์แนว ๆ นี้มานานนับตั้งแต่ซีรีย์ Hotel Del Luna แค่ดูรายชื่อนักแสดงนำซีรีย์ The Witch’s Diner ก็น่าดูแล้ว มีซงจีฮโยแห่ง Running Man นัมจีฮยอนจาก 100 Days My Prince และแชจงฮยอบจาก Nevertheless
เครดิตภาพจาก TVING
ตอนแรกที่ดูสองตอนแรก สารภาพตามตรงว่าไม่ชอบเลยค่ะ เรื่องค่อนข้างอืด เนือยมาก และดูไม่เป็นธรรมชาติ ในการที่แม่มดจะดึงตัวนางเอกมาเป็นลูกน้องที่ร้านอาหารเนี่ยมีความเว่อร์ วกวนเป็นเขาวงกต แต่พอดูไปเรื่อย ๆ ก็เข้าใจแม่มด เป็นเราเราก็รำคาญนางเอก นางเอกเป็นคนอ่อนไหวง่ายเพราะชีวิตเธอไม่เคยสมหวังเลย โชคร้ายตลอด ก็เลยรู้สึกไม่ปลอดภัย ขี้ระแวง และการตัดสินใจก็ผิดพลาดไปหมด
เกือบจะเทแล้วค่ะ จนไปเห็นรีวิวในทวิตเตอร์ว่าตอนที่ 3 กับ 4 ดีมาก ก็เลยกลับมาดูอีกครั้ง ตอนที่ 3 สนุกเหมือนได้คนเขียนบทคนละคน มีการเน้น case study มากขึ้น คำขอและสิ่งที่แลกเปลี่ยนก็โหดมากขึ้นถึงใจผู้ชม ให้มันน่าลุ้นหน่อย และในตอนนี้เราจะสิ้นข้อสงสัยซะทีว่านางเอกได้รับผลกระทบอะไรบ้างไหมจากคำขอเรื่องแก้แค้นป้านางที่ทำให้ร้านของแม่นางเจ๊ง คำขอของพระเอกก็น่ารักเหมือนรอยยิ้มนั้นเลย คนบางคนที่ยังมูฟออนจาก Nevertheless ไม่ได้ พอดูเรื่องนี้ก็ยังมูฟออนไม่ได้อยู่ดี เพราะตัวละครอีกิลดง (แชจงฮยอบ) เหมือนพระรองในร่างพระเอก และดูทรงจะไม่ได้คู่กับนางเอก แค่อยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนเธอไปเรื่อย ๆ จนกว่าโลกจะแตกนั่นแหละ
เครดิตภาพจาก TVING
ซีรีย์เรียล ไม่ขายฝัน ให้คติว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี
คนที่มาขอพร มาใช้พลังเหนือธรรมชาติของแม่มด ส่วนใหญ่ก็คือนึกแต่จะให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ลืมไปว่าในเมื่อได้หนึ่งสิ่ง ก็ต้องเสียสิ่งที่มีไป ผู้ช่วยอย่างจิน (นัมจีฮยอน) และอีกิลดง (แชจงฮยอบ) ก็จะเตือนลูกค้าก่อนจะกินอาหารว่าอย่าพูดพล่อย ๆ นะ เพราะทุกคำขอจะเป็นจริง และถ้ากลัวให้หันหลังก่อนจะเริ่มตักคำแรก เพราะคำสาปจะทำงานทันที คนที่รู้สึกว่าพรนี้คุ้มค่าก็คือคนที่ไม่มีอะไรจะเสียอย่างเคสคนงานตกงาน เขายอมเสียนิ้วสองนิ้วเพื่อชีวิตทั้งชีวิต เขาเสียนิ้วไประหว่างที่ช่วยผู้หญิงจากผู้ร้าย แต่ด้วยความดีของเขา เขาได้เป็นแฟนกับผู้หญิงคนนั้นและได้งานที่บริษัทด้วยเพราะแฟนของเขาเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท
นำเสนอด้านดาร์กของความรัก ทำให้คนเราตาบอดจนมองไม่เห็นอนาคต
เคสของนักแสดงละครเวทีสาวเป็นอุทาหรณ์ที่ชัดเลย เธอยอมแลกเสียงของเธอกับความรักครั้งเก่า ทั้ง ๆ ที่ดูไม่คุ้มเพราะเขาเป็นคนที่เปลี่ยนไป ไปชอบสาวอื่น แต่ด้วยความที่ความรักยังบังตา เธอก็ยอมแลกกับเสียงอันไพเราะ ความฝันที่จะได้เป็นนักร้องอาชีพ เรื่องแลกเสียงกับความรัก ทำให้เรานึกถึง The Little Mermaid ที่นางเงือกน้อยแอเรียลแลกเสียงกับขาเพื่อให้เธอได้พบรักกับเจ้าชายอีริค แต่แล้วสุดท้ายเธอก็กลายเป็นฟองคลื่น เพราะเขาไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน เคสของนักแสดงละครเวทีสาวคือได้แต่ตัวผู้ชายกลับมา เขากลับมาเพราะเขารักเงินของเธอ เขาทะเลาะกับแฟนคนใหม่ และยิ่งน่าเศร้าที่เธอเสียอาชีพการงานไปแล้วเพราะเสียงแหบ หมอหนุ่มที่ตกหลุมรักเธอที่มีแววว่าจะได้เป็นรักใหม่และเป็นคนดีก็กลายเป็นฝันที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เพราะเธอติดหล่มอยู่กับคนรักที่ไม่เอาไหน ความหน้ามืดตามัวไม่ได้อยู่กับแค่นักแสดงละครเวที ทั้งที่รู้ว่าเจ็บแต่นางเอกก็ยังจะแอบกินอาหารของแม่มดเพื่อจะได้กลับไปคืนดีกับแฟนเก่าที่แสนเลว
เครดิตภาพจาก TVING
สอนคนดูว่าไม่ควรไปกะเกณฑ์หรือตัดสินความสุขของคนอื่น
เวลาที่เรามองดูชีวิตคนอื่น เราอาจจะรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา แต่แม่มดโจฮีราก็ได้บอกว่าอย่าไปก้าวก่ายการตัดสินใจของเขา เป็นชีวิตของตัวเขาเอง และต้องดูไปเรื่อย ๆ ใช่ว่าชีวิตจะจบแค่บทเดียว ถึงแม้คุณยายจะสูญเสียความทรงจำไป แลกกับการที่ลูกชายจะได้แต่งงาน ถ้าเป็นเราจะรู้สึกว่าไม่คุ้มเลยยังไงคุณยายก็ไม่รับรู้ว่าลูกชายมีแฟน จะมีความสุขได้ยังไง แต่เพราะคุณยายรักลูกมากและคิดว่าในความเป็นแม่คุณยายเสียสละได้เพื่อลูก โดยที่ตัวคุณยายไม่รับรู้เลยก็ได้ มันเลยเป็นพรที่คุ้มค่าสำหรับคุณยาย คุณยายเป็นห่วงว่าลูกชายจะอยู่ได้ยังไงถ้าคุณยายตายไป เพราะลูกชายเป็นคนที่ไม่ค่อยรับผิดชอบตัวเอง ยังเป็นคุณยายที่หุงหาอาหารให้ ถ้ามีแม่บ้านศรีภรรยา ลูกชายคงทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ในภายหลังจินก็ได้เข้าใจและกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อที่ร้านอาหารแม่มด
ในอีกสองตอนที่เหลือของ The Witch’s Diner ยังเหลือปมใหญ่ ๆ อยู่สองปม คือ เรื่องชีวิตก่อนมาเป็นแม่มดของโจฮีรา ทำไมเธอจึงตัดสินใจเลือกเช่นนี้ และเธอเคยมีความรักหรือเปล่า ส่วนจินในวัยเด็กถูกสาปได้อย่างไร แล้วเธอจะตัดสินใจเป็นแม่มดหรือไม่ ซีรีย์ The Witch’s Diner อาจเริ่มต้นได้ไม่สมูทในตอนแรก แต่เป็นซีรีย์ที่ควรเก็บในลิสต์อีกเรื่อง เพราะมีวิธีการเล่าเรื่องที่สนุก ไม่น่าเบื่อ และเก่งเหลือเกินในการปั่นคนดูไปทางซ้ายทีขวาที และในการหักมุมไม่ได้เก่งแต่หักมุมตอนท้ายตอนนะคะ หักมุมข้ามตอนก็ยังมีเลยค่ะ เรื่อง The Witch’s Diner ต้องขอทิ้งท้ายว่าอย่าไว้ใจคนเขียนบทจนกว่าจะได้เห็นฉากจบค่ะ เรื่องนี้มันสุดจริง ๆ ใครอยากดูซีรีย์ที่ปั่นเก่งแต่ไม่มั่วแบบ The Penthouse ผู้เขียนแนะนำซีรีย์เรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณภาพปกจาก TVING