ซีรีย์เกาหลี Hometown คดีฆาตกรรมที่บ้านเกิด รับชมได้ที่ VIU
Hometown เป็นซีรีย์สืบสวนที่ TVN ยกให้เป็นซีรีย์ฉลองวันเกิดครบรอบ 15 ปี แสดงว่าซีรีย์เรื่องนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ดูจากตัวอย่างซีรีย์ทำให้หลาย ๆ คนคิดถึงซีรีย์สายโหดอีกเรื่องคือ Signal คือการไขคดีที่ปิดไม่ลงในอดีต และมีไทม์ไลน์ในการเล่าคืออดีตกับปัจจุบันสลับกัน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยียุค 80-90 มาให้เห็นผ่านจอให้หายคิดถึง เช่น เทปคาสเซ็ตต์ วิดีโอ เครื่องเล่นวิดีโอ ฯลฯ
เครดิตภาพจาก TVN
Hometown ได้นักแสดงฝีมือดีจัดจ้านหลายคน เช่น ยูแจมยอง ผู้เคยฝากฝีมือในหนังเรื่อง Voice of Silence มารับบทเป็น ชเวฮยองอิน นักสืบวัยกลางคนที่สูญเสียภรรยาจากเหตุการณ์สังหารหมู่ปี 1987, ออมแทกู พระเอกหนังฟิล์มนัวร์อินดี้เรื่อง Night in Paradise คราวนี้พลิกบทร้ายเป็น โจคยองโฮ ฆาตกรในคดีสังหารหมู่ปี 1987 ที่ตอนนี้ยังใช้กรรมในคุก, ฮันเยริ จาก Nokdu Flowers รับบทเป็น โจจองฮยอน น้องสาวของโจคยองโฮ เธอได้รับการประณามจากสังคมที่เป็นครอบครัวของฆาตกร เธออาศัยอยู่กับแม่และหลานสาวผู้ที่เกิดจากโจคยองโฮ, อีแร นักแสดงเด็กที่เล่นเป็นพี่สาวนางเอกในเรื่อง Start Up และเล่นเป็นนางเอกวัย 17 ในเรื่อง Hello me เธอก็กำลังไปได้สวยทีเดียว เป็นรุ่นเล็กที่ฝึมือไม่เล็ก เตรียมขึ้นแท่นนางเอกรุ่นโตคนต่อไป ได้รับบทเป็น โจแจยอง ลูกสาวคนเดียวของโจคยองโฮที่อยากรู้เรื่องแม่ที่ไม่เคยเห็นหน้า
เครดิตภาพจาก TVN
ในตอนเริ่มเรื่องก็เปิดด้วยคดีเพื่อนร่วมชั้นของโจแจยองที่หายตัวไปพร้อมทิ้งหลักฐานคือมีดเล่มหนึ่งพร้อมกับศพแม่ของเธอเอง จากเทปเสียงที่เธออัดไว้ได้บอกกล่าวว่าเธอเห็นผู้หญิงตามเธอมาตลอดเวลา ชเวฮยองอิน (ยูแจมยอง) เชื่อว่าลูกสาวนั่นแหละเป็นคนฆ่าแม่ตัวเองแม้จะหาเหตุผลมารองรับไม่ได้ก็ตาม ในขณะที่สายสืบอีคู่หูเชื่อว่าลูกสาวไม่มีทางฆ่าแม่ตัวเองได้ ในช่วงแรกก่อนเหตุการณ์จะเฉลย ซีรีย์ Hometown ได้เล่าสลับจากคำให้การของชเวฮยองอิน ตำรวจที่เคยรับผิดชอบคดีโจคยองโฮ เขาสูญเสียภรรยาจากการวางเพลิงที่สถานีรถไฟซาจู เขารู้สึกเสียใจที่ตัวเองเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่อง ชอบกินเหล้า กลับบ้านดึก ไม่ค่อยใส่ใจภรรยา และโทษตัวเองว่าทำให้ภรรยาต้องตาย เขาคิดอยากย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต ชเวฮยองอินเป็นตัวละครที่เล่าว่าจริง ๆ แล้วในช่วงเวลาปี 1987 เกิดอะไรขึ้นบ้างและมีการสืบคดีอย่างไร (แต่ปัจจุบันของ Hometown คือ ช่วงปี 1999-2000 บ้านเรือนและข้าวของในเรื่องนั้นก็จะยังมีเทปคาสเซ็ตต์และวิดีโออยู่นั่นเอง) คำบอกเล่าของชเวฮยองอินจึงเป็นการให้ข้อมูลที่อยากให้คนดูรู้ แต่พอดูไปซักพักคนดูก็จะคิดได้เองว่าถึงแม้ว่าชเวฮยองอินจะเป็นคนดี แต่คำพูดของเขาเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือ ในเมื่อเวลาเขาโกรธเขาเปลี่ยนเป็นคนชอบใช้กำลังทารุณผู้ต้องสงสัย และหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลายบุคลิก ส่วนโจคยองโฮที่เป็นคนเดียวที่รู้ความจริงทั้งหมด เขาก็ได้บอกศาสตราจารย์จิตวิทยาในเทปว่าเขาเป็นคนเดียวที่จำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ ถ้าไม่ฟังเขาเลยก็จะสืบไม่ได้อะไรเลย ขณะเดียวกันถ้าเชื่อทั้งหมดจะหลงทาง คำพูดของโจคยองโฮกระตุ้นให้เราอยากจะตามเรื่องนี้ต่อเลยค่ะเพราะมันท้าทายนักสืบจำเป็นอย่างเรามาก เราต้องเอาข้อมูลมาแยกเองว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนปั่นหัวนักสืบ
เครดิตภาพจาก TVN
แล้วคนที่จะมาทำหน้าที่หาความจริงกับเราคือใคร ตัวละครตัวที่ 3 ก็คือ โจจองฮยอน นางเอกของเรื่องนี่เอง เพราะเธอเป็นคนใกล้ชิดของฆาตกร ที่เธออาจมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์เศร้าสลดในอดีต โจจองฮยอนได้เข้ามาตามล่าหาความจริงเพราะจู่ ๆ โจแจยองก็หายตัวไป จองฮยอนกังวลความปลอดภัยของหลานสาว ทำให้เธอกลับมาขุดคุ้ยความจริงในอดีตสุดแสนเจ็บปวด ทั้งเรื่องเพื่อนสมัยเรียนที่อยู่ชมรมเดียวกันที่ต่างคนต่างเติบโตไปคนละทิศคนละทาง สัญลักษณ์เขียนด้วยเลือดแปลกประหลาดที่มันจะไปปรากฎในที่ที่มีคนตาย ยิ่งถลำลึก จองฮยอนก็ยิ่งเสี่ยงอันตรายมากขึ้นทุกที ส่วนตัวโจแจยองก็มีบทบาทเยอะกว่าที่คิด เธอเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยพูด แต่กุมความลับบางอย่าง โจแจยองได้รู้ว่าผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นใคร และเธออยากจะพบเขาสักครั้ง
เครดิตภาพจาก TVN
ในส่วนของเนื้อเรื่องด้วยความที่ genre หลากหลายมาก ซีรีย์ได้เคลมว่าเป็นทั้งซีรีย์ดราม่า ลึกลับ สืบสวน และสยองขวัญในตัว เราจะมาพูดถึงแต่ละส่วนว่าทำได้ดีแค่ไหน ส่วนที่เป็นดราม่าทำได้ดีมาก เล่นประเด็นอ่อนไหว เช่น พ่อแม่ที่ฆ่าลูก ภรรยาที่ฆ่าสามี เขาจะรู้สึกตายทั้งเป็นจนต้องฆ่าตัวตายตามไหม บางทีคนก็ฆ่าคนที่ตัวเองรักเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือถ้าเราถูกควบคุมโดยอะไรบางอย่างว่าเราต้องฆ่าคนที่เรารัก เราจะยอมฆ่าตัวเองเพื่อไม่ให้ทำร้ายคนที่เรารักหรือไม่ ถึงแม้จะมีประเด็นซ้ำ ๆ เน้นย้ำตลอดเรื่อง แต่ในตัวละครแต่ละตัวที่มีสตอรี่ต่างกัน มันก็ดูสนุก ดูได้ไม่เบื่อ ในโจทย์เรื่องความลึกลับ ก็ทำได้ดี ทำให้เราสงสัยได้ตลอด ตอนที่ดูดูไป 6 ตอนก็ยังไม่ได้คำตอบหรอก จะได้คำตอบประมาณตอนที่ 8 ตอนที่ 9 แต่ว่าไม่รู้ ทายไม่ได้ก็สนุกดี พอเฉลยปมก็มันส์เลย เพราะซีรีย์ขยี้ไม่ยั้ง ซีรีย์ค่อนข้างให้บทลงโทษว่าจะลงเอยยังไงได้อย่างโหดสาสม ความสยองขวัญก็ทำได้ดีมีความเกือบ ๆ จะหนังผีวิญญาณ แต่ไม่ถึงขนาดนั้น มีความมูเตลูมากกว่า โทนสยองขวัญจะอยู่แค่ช่วงครึ่งตอนแรก ช่วงหลัง ๆ จะเน้นสืบสวนสอบสวน ส่วนความเป็นสืบสวนสอบสวนของหนังจริง ๆ มันก็เป็นหนังสืบสวนเต็มตัวนะ แต่ว่าเทคนิคการทำให้เรารู้ความจริงไม่ค่อยหลากหลาย เรื่องนี้จะไม่ทิ้งหลักฐานอย่างอื่นเลยเหรอนอกจากเสียงในเทป วิดีโอ และวารสารรุ่นโรงเรียนปี 1987 พยานบุคคลก็ไม่มีใครเลยนอกจากชเวฮยองอินกับโจคยองโฮ คนดีในเรื่องก็จะมีแต่คนที่เดินเข้าหาคนร้ายโดยไม่สงสัยเลยว่าจะติดกับหรือเปล่า มีแต่คนบ้าบิ่น ไม่ค่อยมีนักสืบแบบวางแผนเลย ความจริงที่เราได้รู้มีแต่ภาพวัยเด็กของโจคยองโฮ และแม้แต่ความลับของภรรยาที่ล่วงลับของชเวฮยองอินและการตายของเธอยังต้องให้โจคยองโฮมาเฉลยอีก เรียกว่าใช้โจคยองโฮคุ้มมาก แต่ออมแทกูก็เล่นเป็นฆาตกรโรคจิตได้เนียน ดูน่ากลัว พร้อมจะฆ่าคนตรงหน้าได้ทุกเมื่อ Hometown มีการหักมุมแบบไม่คิดว่าจะหักมาแนวนี้ได้เซอร์ไพรส์หลายจุดมาก ๆ ทุกคำพูดของตัวละครมีความหมาย ต้องคิดตาม ไม่ได้ใส่มาเฉย ๆ แต่ถ้าคุณมัวแต่คิดว่าใครฆ่า หรือยึดติดกับคำว่าฆาตกรต่อเนื่องมากเกินไป คุณอาจจะหลงทางจนดูไม่สนุก ไม่อยากดูเพราะหาคนร้ายไม่ได้ สำหรับเรื่องนี้เปิดหน้าคนร้ายมาตั้งแต่ต้น แปลว่าเขาไม่ได้ให้เราหาคนร้าย แต่ให้หาแรงจูงใจ และอะไรที่เรารู้ตอนต้นเรื่องก็อาจไม่จริงทั้งหมด ดูแล้วเชื่อใครไม่ได้เลย คนที่คิดว่าเป็นเพื่อนที่ดีกับเราก็อาจจะแทงข้างหลังเรามาตลอดก็ได้ หรือแม้แต่สามีภรรยาคุณคิดว่าคุณรู้จักอีกฝ่ายดีพอหรือยัง
จุดที่เราชอบที่สุดของเรื่อง Hometown คือ ความคอนทราสต์ระหว่างหลักฐานในเรื่องกับคนทุกคนในเรื่อง การที่แต่งเรื่องให้คนในเมืองเลือกจะลืมความผิดพลาดในอดีตและความเศร้าโศก แกล้งทำเป็น move on ทำหน้าชื่นตาบาน หรือยอมให้กูรูลบความทรงจำ มันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของจิตใจมนุษย์ มีแต่เทปคาสเซ็ตต์ วิดีโอเท่านั้นที่บอกความจริงกับคนดู เทปบันทึกเสียง วิดีโอบันทึกภาพและเสียง (แต่ในซีรีย์จงใจให้เป็นหนังเงียบ เพื่อให้ภาพผู้หญิงเอามือปิดหน้ามันดูน่ากลัวยิ่งขึ้น) สองสิ่งล้วนเป็นเครื่องมือที่เราไว้บันทึกความทรงจำ สมองของคนเราทำหน้าที่ได้ดียิ่งกว่าเทปกับวิดีโอ แต่เพราะจิตใจมนุษย์อ่อนแอเกินกว่าจะรับเรื่องทุกข์ใจบางเรื่องได้ เราเลยแกล้งจะลืมมันไปเพื่อใช้ชีวิตต่อไป ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องตาย สิ่งที่หนังเรื่องนี้อยากนำเสนอก็คือเราเลือกจะอยู่กับความทรงจำที่เจ็บปวดไปจนตายถ้าเราไม่ฆ่าตัวตายหนีปัญหาเสียก่อน หรือเราจะอยู่ไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีทุกข์โดยไม่มีความทรงจำใด ๆ จำไม่ได้ว่าเคยทำอะไรที่มีความหมายไปบ้างหรือเคยรักใคร
ปกติเราจะไม่ชอบซีรีย์ที่มีเนื้อหาดราม่าหนัก ๆ หรือสืบสวนแบบเครียด ๆ ดาร์ก ๆ แต่ซีรีย์ Hometown ได้กลายเป็นซีรีย์สืบสวนเรื่องใหม่ในใจไปแล้ว ดูยันหว่าง ไม่จบไม่เลิกดู ตอนนี้ซีรีย์จบครบ 12 ตอนแล้ว ลองเข้าไปชมซีรีย์ Hometown ได้ที่ VIU เลยค่ะ
ขอบคุณภาพปกจาก VIU