ซีรีย์เกาหลี Hellbound ทัณฑ์นรก ชมได้ที่ Netflix

Hellbound หรือทัณฑ์นรก เป็นซีรีย์ Netflix Original ที่มาจากเว็บตูนอีกเช่นเคย จะเห็นได้ว่า Netflix ชอบสร้างซีรีย์จากเว็บตูนจริง ๆ ก็เหมือนผู้จัดละครไทยที่ชอบสร้างละครที่มาจากนิยายดังนั่นแหละ เพราะมีฐานแฟนอยู่เยอะ Hellbound กระแสดีมาก เห็นว่าคะแนนนำ Squid Game ที่สร้างปรากฎการณ์ทั่วโลกไปแล้ว ยิ่งทำให้เราอยากรู้อยากเห็นว่า Hellbound จะดีสมคำร่ำลือหรือแค่ราคาคุย ดูแล้วมันก็หนังหนีซอมบี้ธรรมดานี่นา ด้วยชื่อของผู้กำกับ Hellbound คือคนที่กำกับ Train to Busan ทำให้ซีรีย์ Hellbound ดูน่าสนใจทันที ก็ว่าจะลองดูสักตั้งถึงจะไม่ใช่แนวตัวเอง แต่มีแค่หกตอนเอง ในใจก็นึกถึงว่า 6 ตอนสั้นดี ถ้าเป็นหกตอนคุณภาพแบบ D.P ทหารหนีทัพก็ดีไปอย่าง

เครดิตภาพจาก Netflix

พอลองดู Hellbound ตอนแรกแล้ว คำถามเต็มไปหมด การเล่าเรื่องแบบเล่าหมดเปลือก ทิ้งปมไว้เต็มไปหมดแบบนี้ จัดว่าน่าเบื่อ ในตอนแรกแทบไม่มีการตัดสลับฉากเลย เรียบ ๆ เรื่อย ๆ เราก็คิดแบบให้อภัยว่าบางทีอาจเป็นความตั้งใจของผู้สร้างให้เห็นถึงความสิ้นหวังของผู้คน เห็นถึงความหดหู่ การที่ลัทธิศาสนาไม่ว่าจะเป็นลัทธิสัจธรรมใหม่หรือลัทธิหัวศรเข้ามามีบทบาทต่อผู้คนที่สิ้นหวัง เราคิดจะให้โอกาสหนังจึงดูต่อในตอนที่ 2

เครดิตภาพจาก Netflix

ตอนที่ 2 ดูสนุกตื่นเต้นขึ้นมาอีกนิด เพราะเรื่องก็ดูจะเดินหน้าบ้าง และดูเข้าใจง่ายมากขึ้น เวลาดูก็แอบรำคาญพวกลัทธิหัวศรที่ออกมาไลฟ์อธิบายให้คนดูฟัง แต่มันไม่ตลก ออกจะรำคาญมาก เพราะอธิบายในสิ่งที่คนดูเข้าใจ แต่ส่วนที่คนดูงงกลับทิ้งให้ค้างเติ่ง ตอนที่ 2 เป็นเรื่องราวของพัคจองจาหญิงซิงเกิ้ลมัมที่มีลูกสอง จองจินซู (ยูอาอิน) หัวหน้ากลุ่มสัจธรรมใหม่ได้บอกว่าบาปของพัคจองจาคือไปยุ่งกับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว เธอจึงได้พบกับทูตสวรรค์ที่บอกว่าเธอจะต้องถูกลงทัณฑ์ในอีกห้าวัน

เครดิตภาพจาก Netflix

ตัวละครที่ดูจะมีบทบาทอีกตัวคือ ทนายความสาวมินฮเยจิน แต่บทของเธอกลับปวกเปียก ดูไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะเธอมีหน้าที่แค่พาลูก ๆ ของพัคจองจาหนีไปต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เห็นภาพบาดตาที่แม่ของพวกเขาถูกย่างสดจากยมทูต กลุ่มสัจธรรมใหม่ตั้งใจจะแสดงธรรมเทศนาด้วยการให้สถานีโทรทัศน์ถ่ายทอดสดการลงทัณฑ์พัคจองจา และเมื่อการลงทัณฑ์จบลง ประชาชนเสียใจและละอายบาปมากขึ้น และดูเหมือนสมาชิกสัจธรรมใหม่จะเพิ่มมากขึ้นจากเหตุการณ์นี้

เครดิตภาพจาก Netflix

ทางด้านฝั่งตำรวจที่สูญเสียภรรยาจากฆาตกรที่ไม่สมประกอบเมื่อหลายปีก่อน เขาอาศัยอยู่กับลูกสาวคนเดียวของเขา ลูกสาวตำรวจหรือฮีจองศรัทธาในผู้นำกลุ่มสัจธรรมใหม่ จองจินซูปลอบโยนเธอและพาเธอไปเจอฆาตกร เขาช่วยให้เธอได้แก้แค้นให้แม่ของเธอ ทันทีที่ตำรวจเห็นข่าวการเสียชีวิตของฆาตกรก็รู้สึกเอะใจ และรู้ว่าลูกสาวหายตัวไปเป็นฝีมือของจองจินซู เขาได้เผชิญหน้ากับจองจินซู ตัวตนจริง ๆ ของจองจินซูจะเป็นอย่างไร เขาเป็นคนไม่ดีหรือเขาเป็นแค่คนโง่ที่น่าสงสาร ต้องไปหาคำตอบในซีรีย์เอาเอง

เครดิตภาพจาก Netflix

สามพาร์ทแรกก็ดูจะสมน้ำสมเนื้อสำหรับซีรีย์แนวนี้ ความดีงามที่สุดของซีรีย์ก็คือการแสดงของยูอาอินที่สะกดสายตา ตอนที่ยังไม่เปิดเผยตัวตน เขาแสดงได้ดูเป็นผู้นำลัทธิที่มีความแปลก ๆ มึน ๆ ลึกลับ ในขณะที่ตอนเปิดเผยตัวตนมันมีความหลายอารมณ์อยู่ในสีหน้า จองจินซูก่อนที่จะถึงกำหนดการลงทัณฑ์มีทั้งความแค้นโลก ความเกรงกลัวความตาย ความเสียใจที่ไม่มีใครรักแม้แต่แม่ของตัวเอง ความเหงาโดดเดี่ยวมาตลอด 30 ปีที่อยากฆ่าตัวตายแต่พอเห็นการตายจริง ๆ กลับกลัว ซีรีย์ให้ยูอาอินแสดงพลังออกมาได้เต็มที่ แต่ก็น่าเสียดายที่บทของเขายุติเพียงแค่สามตอนแรก

เครดิตภาพจาก Netflix

บทคุณตำรวจก็แสดงใช้ได้อยู่ เป็นตัวหลักได้ แต่ซีรีย์กลับตัดบทนักแสดงเก่ง ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งฮีจองลูกสาวที่เล่นได้โรคจิต ตำรวจที่มีปมภรรยาตาย ลูกสาวเป็นฆาตกรหลบหนี กลับไม่เล่นประเด็นนี้ต่อ ให้บทตำรวจหายไปเฉย ๆ ตัวพัคจองจาที่นักแสดงเล่นดีมากก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว ตอนที่ 4-6 จึงเป็นบทส่งท้ายที่ค่อนข้างจะเละเทะ และเนื้อเรื่องไม่ต่อเนื่อง ความสมเหตุสมผลของตัวละครไม่มีเลย เหมือนแค่อยากจะให้ยมทูตสามตัวจะย่างใครก็ย่าง แล้วก็วิ่งหนีโกยอ้าวไปทั้งเรื่อง

ถ้าจะบอกว่าอุบอิบไว้ไปต่อซีซั่นสอง ขอบอกตรงนี้เลยว่าถ้าทำซีซั่นหนึ่งไม่ดี คนดูก็ไม่อยากดูซีซั่นสองหรอก ตอนที่ 4 ย้ายมาเล่าเรื่องฝั่งสถานีโทรทัศน์ และก็มีคนที่หนีหัวซุกหัวซุนเพราะพระเจ้ามาทำนัดไว้แล้ว เรื่องเลยเถิดถึงการลงทัณฑ์เด็กทารกเพิ่งเกิดลูกของโปรดิวเซอร์สถานีโทรทัศน์ พวกคนที่หลงงมงายก็เชื่อเหลือเกินว่าเด็กที่ถูกลงทัณฑ์เพราะบาปหนาในชาติที่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วพระเจ้าก็แก้ตัวว่าพระเจ้าดูผิดคน แต่เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ยมทูตก็ต้องมาตามที่นัดไว้ ตอนท้ายมีซึ้งนิดหน่อย ซึ่งก็อาจจะทำให้หลายคนประทับใจก็ได้ แต่สำหรับเรามันไม่สามารถหักล้างเนื้อเรื่องที่น่าเบื่อ เฉื่อยเนือยมาตลอดได้หรอก

สรุปแล้วซีรีย์ Hellbound เป็นซีรีย์ที่เนื้อเรื่องอ่อน บทอ่อน ไม่มีอะไรน่าติดตามเป็นพิเศษ ตอนแรกมีไอเดียที่น่าสนใจดีเกี่ยวกับศาสนากับสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่ตอนนี้เรากลับต้องคิดใหม่แล้วว่าพล็อตดี บทไม่ดีและยิ่งไม่มีอะไรใหม่ด้วย แนว ๆ นี้ Hometown เล่าดีกว่ามาก ๆ เราคิดว่าถ้ามีซีซั่นสองจะต้องปรับบทหรืออาจจะต้องใช้พลังดารามากหน่อย แบบให้คนมาดูการแสดงของนักแสดงแทน เนื้อเรื่องค่อนข้างอ่อนกว่าซีรีย์เกาหลีของ Netflix เรื่องอื่น ๆ เราคิดว่า Hellbound เป็นหนึ่งในเรื่องที่แย่ที่สุดของ Netflix เลยล่ะ

ขอบคุณปกจาก Netflix