ซีรีย์เกาหลี All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้ ชมได้ที่ Netflix
แว่บแรกที่ Netflix ประกาศว่าต้นปี 2565 ซีรีย์เกาหลี All of Us Are Dead มาแน่ เราคิดในใจว่าหนังซอมบี้อีกแล้วหรือ เพราะตอนนี้หนังและซีรีย์จากเกาหลีผลิตแนวซอมบี้ออกมาเกลื่อนตลาดเหลือเกิน จนเราคนดูก็ชักจะเบื่อ ๆ ยิ่งเรื่องนี้มาแนวโรงเรียน ก็คิดว่าเป็นซีรีย์ที่ดันดาราวัยรุ่นแบบยกเข่งแน่นอน เพราะเวลาเกาหลีทำซีรีย์แนว School ทีไร ก็ดังทุกภาค จนออกมาเป็น School 2013, School 2015, School 2017, School 2019 เรียกได้ว่าตระกูล School ออกมาทุกสองปี ขึ้นอยู่กับใครเล่นเป็นนักแสดงนำ หมุนเวียนเปลี่ยนหน้า พร้อมปัญหาวัยรุ่นแบบเดิม ๆ เช่น เด็กแกล้งกัน ท้องในวัยเรียน ปัญหาเด็กลักขโมย จนเรียกได้ว่าสร้างแล้วสร้างอีก นี่ยังไม่นับซีรีย์แนวโรงเรียนที่ไม่ใช่ชื่อว่า School อีกเป็นโขยง
เครดิตภาพจาก Netflix
All of Us Are Dead หรือมัธยมซอมบี้ ก็จับแนวโรงเรียน+ซอมบี้ ซึ่งเป็นแนวที่คนดูชอบอยู่แล้ว ก็เป็นแผนการที่ฉลาดดีในการสร้างกระแสให้คนรอดู สองตอนแรกเปิดตัวได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าใด เพราะแนวที่ว่าซอมบี้เกิดจากไวรัสในห้องทดลองไม่ใหม่เลย แต่นักแสดงคนที่เล่นเป็นครูวิทยาศาสตร์แสดงได้น่าดึงดูด (คิมบยองชุล ที่แสดงเป็นศาสตราจารย์ชา คุณพ่อเจ้าระเบียบในเรื่อง Sky Castle) รวมถึงมีซีนเสียน้ำตาคือครูเขามีลูกชายที่ถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง จนครูตัดสินใจฉีดไวรัสที่เขาทดลองว่าจะทำให้คนคนนั้นมีความแข็งแกร่งขึ้น แต่แทนที่จะได้ซูเปอร์แมน กลับได้ซอมบี้แทน แล้วที่น่าเศร้าคือลูกชายของครูก็ไปกัดแม่เป็นซอมบี้อีกคน ทำให้ครูต้องลากลูกชายกับภรรยาที่เป็นซอมบี้ไว้ตลอด
เครดิตภาพจาก Netflix
ทีนี้เรื่องของการเกิดซอมบี้มัธยมตัวแรกก็คือนักเรียนหญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้องครูแล้วถูกหนูทดลองกัด หนูทดลองของครูมันเป็นหนูซอมบี้ ครูก็เลยต้องขังเด็กมาฉีดยาระงับประสาท จะได้กลายร่างช้า ๆ หน่อย แต่ด้วยความที่เด็กหญิงกลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว แรงเยอะจนหลุดจากพันธนาการ เธอวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากครู ครูพาไปส่งห้องพยาบาล แล้วตอนฉีดยานั้นเองเธอก็ได้กัดครูพยาบาลไปแล้ว ก่อนที่เธอจะถูกส่งไปแพร่เชื้อ เอ๊ย รักษาที่โรงพยาบาลต่ออีกทอด
เครดิตภาพจาก Netflix
เรื่องของการเป็นคลัสเตอร์โรคติดต่อก็เริ่มจากคุณครูพยาบาลที่ไล่กัดนักเรียนที่จะถ่ายคลิปล้อเลียนเธอ ครูพยาบาลและนักเรียนที่ถูกกัดแล้วต่างเพิ่มจำนวนซอมบี้จนนักเรียนในโรงเรียนกลายเป็นซอมบี้เกือบหมด เหลือนักเรียนอยู่กลุ่มหนึ่งที่หาที่หลบในห้องและไม่โดนซอมบี้กัด แต่ถ้าซอมบี้บุกมา ก็ต้องโยกย้ายหนีซอมบี้ไปเรื่อย ๆ ครูประจำชั้นสาวเป็นคนที่เป็นขวัญกำลังใจคนหนึ่งเลย แต่เธอก็มีเหตุให้ต้องออกจากห้องไป ทำให้เด็ก ๆ ต้องหาทางเอาชีวิตรอดกันเอง
เครดิตภาพจาก Netflix
ความมีมิติของเรื่อง All of Us Are Dead หรือมัธยมซอมบี้ ก็คือสร้างตัวละครตัวหนึ่งชื่ออีนายอน แสดงโดยอียูมีจากซีรีย์ Squid Game คราวนี้เธอเป็นนางร้ายเต็มตัว นายอนไม่ถูกกับเพื่อนชื่อกยองซู เธอไม่ช่วยอะไรทีม แถมเห็นแก่ตัว ด้วยความกลัวตาย เธอก็แสดงสัญชาตญาณดิบแบบเต็มที่คือเห็นเพื่อนถูกซอมบี้ข่วน ก็จะไม่ให้เพื่อนเข้ามาอยู่ในห้อง เธอกล่าวหาเพื่อนอย่างร้ายกาจ และทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดเพื่อพิสูจน์ว่าคำพูดของตัวเองเกี่ยวกับกยองซูเป็นสมมติฐานที่ถูกต้อง
การตัดสินใจของตัวละครก็ดูเรียลดี ถ้าเราเป็นนักดับเพลิงตามหนังอุดมคติเรื่องอื่น เราอาจจะเลือกแบบฮีโร่คือช่วยคนค่อยไปช่วยตัวเอง แต่ตามธรรมชาติของคน คนเราย่อมรักครอบครัวมากกว่าลูกคนอื่น อย่างพ่อของอนโจหรือแม่ของซองชานก็คือตัดสินใจไปช่วยลูกที่โรงเรียน เพราะสำหรับคนเป็นพ่อแม่นั้นลูกสำคัญที่สุด ตัวละครนักการเมืองไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะซีรีย์ส่วนใหญ่ก็จะชอบแซะนักการเมืองว่าเป็นพวกตีสองหน้า ทำไปเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เราก็เลยไม่ค่อยอยากแตะตัวละครตัวนี้ ตัวละครที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งคือตัวนายพลที่สั่งวางระเบิดเมืองฮโยซันเพื่อเซฟคนส่วนรวมที่ยังไม่ติดเชื้อ แล้วสุดท้ายเขาก็ยิงตัวตาย นายพลก็มีครอบครัวเหมือนกัน แต่เขาเลือกที่จะทำแบบนี้เพื่อตัดวงจรซอมบี้ แต่มันแก้ปัญหาได้ถูกจุดจริงหรือ ในเมื่อการระบาดได้ลุกลามไปเยอะแล้ว (เราจะได้ดูต่อในซีซั่นสองแน่ ๆ)
เครดิตภาพจาก Netflix
ส่วนที่เบาของซีรีย์ก็คือความรักวัยรุ่นที่ใส่มา มันค่อนข้างเดาง่ายว่าใครคู่ใคร และดูเกินจริงไปด้วยในส่วนของนักเรียนสาวที่ติดเชื้อซอมบี้แต่อดทนคงสภาพมนุษย์ไว้ได้นานมาก ๆ เราเบื่อฉากไล่ล่าของซอมบี้เหลือเกิน เพราะมันเดิม ๆ คนที่ถูกกัดเดี๋ยวก็กลายเป็นซอมบี้ชักดิ้นชักงอกันไป แต่ตัวละครที่แสดงน่าสนใจดูน่าติดตามก็มีชองซานกับควีนัมที่เป็นคู่แค้นกันนี่แหละ ทำให้เราทนดูต่อได้ ฉากพูดคุยกันของเหล่านักเรียนค่อนข้างยาวเกิน ทำให้เรื่องเอื่อย ๆ น่าเบื่อจนต้องดูไปหยุดไป
เครดิตภาพจาก Netflix
All of Us Are Dead อาจดูได้เพลินยามว่าง แต่ไม่ค่อยประทับใจ เพราะเน้นใส่ความดราม่าที่เพื่อนและคนที่เรารักต้องกลายเป็นปีศาจ (ซอมบี้) และเขาไม่มีวันจำเราได้อีก คือถ้าไม่มีฉากพวกนี้มันไม่มีอะไรเลย เป็นมุกคลาสสิกเลยทีเดียวเวลาไปดูหนังฝรั่งที่เพื่อนหรือใครสักคนจะตายหรือจากกันแบบนิรันดร์ เชื่อว่าซีรีย์ก็ฉลาดแหละในการใส่ฉากที่ตัวละครเห็นแก่ตัวแบบอุทานว่าเอ๋ อย่างนี้ก็ได้เหรอ แล้วก็ใส่ฉากตัวละครตัวนั้นรับกรรมมาแบบให้ความสะใจคนดู มีความคาดไม่ถึงหลายต่อหลายครั้ง และหลัง ๆ ตอนใกล้จบก็มีการสรุปโยงเชื้อไวรัสซอมบี้กับโรคโควิด-19 ได้แบบแนบสนิท ดูแล้วนึกถึงซีรีย์ไทยเรื่องเคว้ง เพราะแนวเดียวกันเลย ตอนจบรู้ว่าจะไปเล่าต่อในซีซั่นสอง แต่ตัดจบได้อย่างน่าเกลียดมาก เลยไม่ค่อยประทับใจนัก
ขอบคุณภาพปกจาก Netflix