แอนิเมชัน Arcane จากเกม League of Legends รับชมได้ที่ Netflix
Arcane เป็นซีรีย์แอนิเมชันออริจินัลจาก Netflix โดยได้ผู้ผลิตเกม League of Legends อย่าง Riot Games สร้างแอนิเมชันนี้เองเลยด้วย ได้บริษัทเกมมาทำหนังเองแบบนี้ คนดูไม่ต้องห่วงเลยว่าภาพจะไม่สวย แถมเรื่องราวในแอนิเมชันยังน่าสนใจ ต่อยอดจากเกมได้ยอดเยี่ยมเลย
เครดิตภาพจาก Netflix
ถ้าใครที่เคยเลยเกมแนวจำลองสถานการณ์หรือเกมแนวต่อสู้ คงนึกภาพออกว่าเนื้อเรื่องมันจะหลวม ๆ แต่มีการสร้างตัวละครที่มีความสามารถพิเศษ จุดอ่อน จุดแข็งต่าง ๆ ส่วนเนื้อเรื่องจะดำเนินไปทางไหน เราผู้เล่นมีส่วนกำหนดเนื้อเรื่อง ชี้ชะตาตัวละคร คือถ้าได้ผู้เล่นแบบผู้เขียนที่เล่นเกมเพลย์สเตชั่นไม่ผ่านด่านแรก ตัวละครเอกเจอโศกนาฎกรรมแน่นอน แต่อย่างคนที่เป็นเซียนเกมก็จะพาตัวละครไปสู่จุดที่แฮปปี้เอ็นดิ้งเอง
ฉะนั้นโจทย์ในการ adapt เกม League of Legends ที่ Netflix ให้ Riot Games มาจึงไม่ง่าย เท่ากับว่า Riot Games มีของดีอย่างตัวละคร Vi หรือ Violet และ Powder หรือ Jinx แต่ต้องมาสร้างบทให้ว้าวพอ ๆ กับตัวละคร ถ้าถามเราตัวพี่น้องแก้แค้นกันไม่ใหม่นะ มันเหมือนหนังจีนโบราณ แต่ว่าการทะเลาะกันของพี่น้องมันก็เป็นบทที่แมส คนชอบดูแบบนี้ มีคำพูดประโยคที่ซาบซึ้งในความผูกพัน มีประโยคที่เศร้า ๆ แสดงให้เห็นอารมณ์ของ Powder ที่ทั้งรักทั้งเกลียดผู้เป็นพี่สาวที่เคยทิ้งเธอไป
เครดิตภาพจาก Netflix
แล้วถ้าใครสังเกตดี ๆ เรื่องนี้มีสูตรสำเร็จของหนังที่สำเร็จหลาย ๆ เรื่อง Powder หรือ Jinx ก็คือโจ๊กเกอร์นั่นเอง เธอมีความจิตตั้งแต่เด็ก เด็กปกติที่ไหนจะช่วยพี่สาวด้วยการปาระเบิดฆ่าคนสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนั้น แค่ดูตาก็รู้แล้วว่าเด็กนี่มันโรคจิต ไม่สามารถแยกแยะดีชั่วได้ ตัวนางเอกอย่าง Vi เธอก็จะเป็นคนดีแบบซูเปอร์ฮีโร่ คือตอนเป็นเด็กวัยรุ่นเธอก็อาจจะพลาดไป ด้วยความที่โกรธพวกคนชั้นบนที่กุมอำนาจ เธอเลยไปเผาสำนักงานของนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นคนของสภาชั้นบน แต่ว่า Vi ก็ได้รับบทเรียนแล้วจากแวนเดอร์ว่าเธอเป็นหัวหน้ากลุ่มเด็ก เธอต้องรับผิดชอบ เพราะพวกเด็กพวกนั้นฟังเธอและทำตามคำสั่งเธอ ในกลุ่มเด็กชนชั้นล่างมี Vi, Milo, Ekko, Cracker และ Powder น้องสาวแท้ ๆ ของ Vi
ในสงครามครั้งก่อนที่ไฟมอดไหม้ทั้งเมืองจนพรากพ่อแม่ของ Vi กับ Powder แวนเดอร์ได้ช่วยพา Vi กับ Powder หนีข้ามสะพานมา ในเรื่องได้เผยว่าแวนเดอร์เป็นคนที่ทรยศพวกตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด ยอมขายตัวเองให้กับคนชั้นบน ทำให้ซิลโก้ผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพรรคพวกเกือบตายในน้ำที่ใส่สารพิษ ซิลโก้ที่เป็นเหมือนรุ่นน้องของแวนเดอร์จึงเกลียดแวนเดอร์นัก ซิลโก้ไม่ไว้ใจใครอีกและเป็นหัวหน้าของพวกคนชั้นล่าง
เครดิตภาพจาก Netflix
การแตกหักของ Vi กับ Powder หลังจาก Powder ระเบิดตึกจนลูกหลงมาโดนแวนเดอร์ตาย ทำให้ Powder ได้ไปอยู่ในการดูแลของซิลโก้ ซิลโก้รัก Powder เหมือนลูกแท้ ๆ เพราะมีปมเหมือนกัน เขาเสี้ยมสอน Powder ให้เกลียด Vi แต่ Powder ผิดปกติเกินกว่าที่ซิลโก้จะควบคุมได้ เพราะเธอฆ่าคนรายวันแบบไม่มีเหตุผล Powder ไม่ใช่นักสู้ที่เก่งเลย ดูจากฝีมือในการสู้ เธอแพ้ Ekko กับ Vi แต่เพราะเธอมีคริสตัลระเบิดมือ และความเจ้าเล่ห์ เธอจึงเอาชนะนักสู้ที่ใช้พละกำลังอย่างเดียว
เรื่องราวของสภาชั้นบนก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เดิมทีคริสตัลที่ Powder เอาไปทำระเบิดนี่เป็นงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชื่อเจซ ตอนแรกเจซถูกต่อต้านจากสภามาก เพราะสภากลัวว่าจะมีคนเอาไปใช้ในทางที่ผิด เจซได้เจอกับเวคเตอร์นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะอีกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันคืออยากให้โลกพัฒนา เจซกับเวคเตอร์ก็ได้พัฒนาคริสตัลจนสำเร็จ คือให้พลังงานแต่ไม่ระเบิด ผู้เขียนคิดว่าเจซกับเวคเตอร์คือคิดจะผลิตเวทมนตร์เพื่อให้คนเราสะดวกสบายมากขึ้นแหละ นักวิทยาศาสตร์ที่หน้าเหมือนสุนัขอายุ 300 กว่าปีได้เตือนเจซว่าอย่าเพิ่งโชว์ผลงาน ให้ผลงานมันเสถียรจริง ๆ เสียก่อน นั่นทำให้นายหญิงแห่งสภาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเธออยากจะได้รับความนิยมจากประชาชนโดยยืมมือเจซ
เครดิตภาพจาก Netflix
เวคเตอร์เป็นคนชั้นล่างได้ไปพบเพื่อนเก่า เพื่อนเก่าของเวคเตอร์เตือนว่าธรรมชาติไม่สามารถดัดแปลงโดยง่าย เวคเตอร์เลยเริ่มฉุกคิดเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองอาจนำไปสู่จุดแตกหักของสองเมือง นายหญิงแห่งสภากลัวว่าคนชั้นล่างที่ฉลาดอาจจะเก็บคริสตัลได้และเอาไปทำเป็นระเบิด ในขณะที่เด็กสาวที่เป็นว่าที่ประมุขไม่อยากทำร้ายคนชั้นล่าง อยากเจรจาด้วยสันติ แม่ของว่าที่ประมุขถามว่าถ้าคนชั้นล่างตอบโต้กลับจะทำอย่างไร เราควรเตรียมพร้อมวิธีตอบโต้ สงครามยังไงก็ต้องเกิด อย่าเป็นเจ้าหญิงโลกสวย
ความเปลี่ยนแปลงของตัวละครเป็นจุดที่ Riot Games ทำได้ดี คนที่สิ้นหวังอย่าง Ekko ก็กลายเป็นคนแข็งกร้าวขึ้น ไม่ไว้ใจใคร แต่ Ekko เป็นเด็กอ่อนโยนและรัก Vi ลูกพี่ของเขามาก เขาใจอ่อนกับ Powder แม้เขาจะรู้ว่า Powder ไม่ใช่ Powder คนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เป็น Jinx ฆาตกรเลือดเย็น Powder เป็นตัวละครที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด ขณะที่ Vi เองก็เปลี่ยน หลังจากที่ Vi เป็นแฟนกับ Caitlyn ผู้คุมกฎที่เป็นคุณหนูจากสังคมชั้นบน Vi ก็มีความเห็นอกเห็นใจคนมากขึ้น จน Powder ไม่พอใจ Vi มาก ๆ เพราะ Vi ไม่ได้เป็นศัตรูกับคนชั้นบนแบบตอนแรก เจซนักวิทยาศาสตร์ที่รักวิทยาศาสตร์มาก ๆ ก็เปลี่ยนไปในแนวพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำลายคนชั้นล่าง ต่างกับตอนเริ่มโปรเจ็กต์ที่อยากให้คนทั่วโลกได้รับความสงบสุข สะดวกสบาย เป็นการสร้างโลกใหม่
Arcane มีเนื้อเรื่องที่ดี ฉากต่อสู้ก็สีสวยและดูสมจริงเหมือนเล่นเกม ตัวละครแอบหน้าคล้ายชาวซิมส์ใน The Sims ชอบเอฟเฟ็กต์แสงในเรื่องมาก ๆ ตอนที่มีพลังเวทมนตร์หรือระเบิด ตอนต่อสู้ทุกตอนเป็นไฮไลท์ ต่อสู้มันส์หยดทุกคู่ ทั้งดนตรีที่มันทั้งเพราะและเร้าใจในคราวเดียวกัน และฉากต่อสู้นี่เล่าเรื่องด้วย ดูแล้วก็นึกถึงเรื่อง Alice in Borderland ที่จะแฟลชแบ็กตอนต่อสู้แบบนี้ ปีนี้ Arcane ต้องได้เข้าชิงทั้งตัวบทหนัง งานภาพ ซาวน์เอฟเฟ็กต์และเอฟเฟ็กต์แสงต่าง ๆ รวมถึงเพลงประกอบ เพราะทุกเพลงและเข้ากับเรื่องด้วย
Arcane มีสามองก์ องก์หนึ่ง (ตอน 1-3) องก์สอง (ตอน4-6) และองก์สาม (ตอน 7-9) เราประทับใจองก์แรกกับองก์สามเพราะทำได้ดีมาก ๆ กรีดเลือดสุด ๆ เศร้าดี แต่องก์สองแอบน่าเบื่อ เพราะเน้นเล่าเรื่องของคนชั้นบน และเป็นการปูเรื่องไปสู่ความขัดแย้งในตอนท้าย ก็เลยไปมีฉากมันส์ ๆ แบบการต่อสู้ตัวต่อตัวช้าประมาณท้ายตอนที่ 6 นู่นเลย สนุกสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ
ขอบคุณภาพปกจาก Arcane