ซีรีย์ญี่ปุ่น Mr. Hiragi’s Homeroom ห้องเรียนครูฮิรากิ ชมได้ที่ Netflix
ซีรีย์สืบสวนที่มาแรงแซงโค้งในใจเราตอนนี้คือ Mr. Hiragi’s Homeroom ที่ดึงแนวถนัดของญี่ปุ่นอย่างแนวครูนักเรียนมาผสมผสานกับแนวอาชญากรรมได้อย่างกลมกล่อมที่สุด
เครดิตภาพจาก GemTV Asia
ตอนแรกซีรีย์นำเสนอแบบทีเล่นทีจริง แต่น่าติดตาม ตัวครูฮิรากิ (มาซากิ สุดะ) แสดงได้แบบกวนโอ๊ยมาก ครูชอบดูการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่แนวไอ้มดแดง แต่ในเรื่องนี้คือหมาป่าแดงฟีนิกซ์ ครูก็จะชอบผดุงความยุติธรรมแต่ออกจะบ้าบิ่นไปหน่อย ตอนแรกเราก็จะสงสัยในตัวครูว่าครูเคยเป็นฆาตกรมาก่อนรึเปล่าแล้วมาแฝงตัวหนีตำรวจ เพราะครูฮิรากิดันจับเด็กปีสามห้องเอที่ตัวเองเป็นครูประจำชั้นมาเป็นตัวประกันทั้ง 29 คน โดยครูขู่ว่าเด็กจะต้องถูกกักตัว 10 วัน ถ้าตำรวจเข้ามายุ่ง เขาจะระเบิดห้องเรียนให้หมด นักเรียนตายไม่รู้ด้วยนะ
เครดิตภาพจาก GemTV Asia
นักเรียนทุกคนต่างโกรธครูที่จู่ ๆ ก็เป็นมือวางระเบิดซะงั้น แต่ตลอดสิบวันที่ได้เรียนรู้กับครู เขาก็ได้เข้าใจว่าครูทำไปเพื่อหาตัวฆาตกรที่ฆ่าเรนะ เรนะเป็นนักว่ายน้ำดาวรุ่งของโรงเรียน มีสถิติว่ายน้ำเร็วที่สุด เธอมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า แต่เธอกลับฆ่าตัวตาย ครูฮิรากิได้สาวไส้นักเรียนแต่ละคน (ก็เกือบทั้งห้อง) ที่บูลลี่เรนะ หรือทำความผิดต่อเรนะ เช่น ถ่ายคลิปเรนะเอาไปแบล็กเมล กล่าวหาเรนะว่าโด๊ปยาเลยแข่งว่ายน้ำชนะ หรือเป็นเพื่อนสนิทแต่ไม่อยู่เคียงข้าง คอยปลอบโยนเรนะ ฯลฯ
เครดิตภาพจาก GemTV Asia
ยิ่งดูก็ยิ่งทึ่งในฝีมือการแสดงของนักแสดงญี่ปุ่น พอถึงพาร์ตของตัวเอง แต่ละคนก็เล่นดราม่าได้ดีมาก ๆ พล็อตก็เดาไม่ได้เลย ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนักเรียนฆ่าตัวตาย มันจะไปได้ไกลถึงระดับชาติเลย จริง ๆ ซีรีย์ก็ใบ้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่าทำไมครูฮิรากิถึงให้สถานการณ์จับตัวประกันเป็นการไลฟ์สดผ่านแอป Mind Voice ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนเรารึเปล่าที่ตั้งใจอ่านคอมเมนต์ชาวเน็ต ชาวเน็ตนี่คือขาดความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ ใครล้มก็ด่าเอาสะใจ เหมือนที่เรนะถูกตราหน้าจากสังคมว่าอัพยา
เครดิตภาพจาก GemTV Asia
ครูฮิรากิก็ตาต่อตา ฟันต่อฟันมาก ๆ ในการแก้แค้นครูที่เคยใส่ร้ายแฟนของเขาให้จบอาชีพครู แต่คนดูไม่รู้สึกสะใจ กลับสงสารมาก ๆ และดีใจที่เขาสำนึกผิดในการกระทำซะที ฉากที่ตราตรึงใจเราคงเป็นฉากที่ครูฮิรากิช่วยให้คายาโนะมูฟออนจากการตายของเรนะด้วยวิธีที่แปลกประหลาด แต่สำหรับครูฮิรากิ มันคุ้มมาก ๆ ที่ได้เห็นว่าสิ่งที่เขาสอนมันสื่อไปถึงนักเรียนทุกคน และนักเรียนของเขาจะโตไปเป็นคนที่ไม่เย็นชากับการทำร้ายคนอื่น
ข้อคิดที่ซีรีย์ Mr. Hiragi’s Homeroom สอนเราอีกอย่างก็คืออย่าตัดสินคนแค่ภายนอกที่เห็น การตัดสินคนภายนอกอาจทำให้เราทำอะไรโง่ ๆ เช่น ใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์ ก่อนจะอัพอะไรลงโซเชียลควรหยุดก่อน คิดสักนิดว่าจริงหรือไม่จริง มีหลักฐานหรือเปล่าที่จะกล่าวหาคนคนหนึ่ง และสุดท้ายเรายังยืนยันจะทำแบบเดิมหรือไม่ การกด send ข้อความเพียงครั้งเดียวอาจเปลี่ยนชีวิตคนทั้งชีวิต ถ้าเราคิดก่อนพูดก่อนพิมพ์ ปุ่มที่จะเซฟชีวิตก็คือ Backspace เพราะหลายครั้งที่เราอัพข้อความลงโซเชียลไปแล้ว คนที่เราระบายอารมณ์ใส่เขาอาจจะรู้สึกไม่มีทางออก แล้วคำขอโทษอย่างจริงใจก็ไม่สามารถเอาชีวิตเขากลับคืนมาได้
Mr. Hiragi’s Classroom สนุกแบบไม่พยายาม ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกฮีลใจ ให้กำลังใจ ให้เราสู้ต่อไปแม้จะยังไปไม่ถึงฝันในวันนี้ คำพูดดี ๆ ที่ชวนให้คิดดังประโยคติดปากของครูฮิรากิว่า ” Let’s think” หรือลองคิดดู ทำให้เรามีวิจารณญาณมากขึ้นในการเสพสื่อ ไม่ให้อารมณ์พาไป และบางครั้งเพื่อรักษาความดีงาม เราอาจจะต้องเสียสละประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งทำไม่ได้ง่าย ๆ แต่ควรทำ
ขอบคุณภาพปกจาก GemTV Asia