ซีรีย์ไทย Dare to love ให้รักพิพากษา ชมได้ที่ Netflix
Dare to love ให้รักพิพากษา ละครใหม่ทางช่อง 3 ได้นางเอกสุดฮอต เบลล่า ราณี แคมเปญ เป็นเจ้ดันให้กับพระเอกใหม่ พีค กองทัพ (พีคเข้าร่วมการแข่งขันปั้นเด็กฝึกเป็นศิลปินในรายการ Produce X 101 ของประเทศเกาหลี) พร้อมกับนักแสดงอีกคับคั่งที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะในละครโรแมนติกคอเมดี้แนวกฎหมายเรื่องนี้ แค่ตอนแรกก็ฟินแล้ว ถึงแม้ว่าวัยของพระนางจะแตกต่างกันถึง 12 ปี แต่ไม่เป็นอุปสรรคกับเคมีของทั้งคู่
พีค กองทัพ รับบทเป็น คิว ทนายฝึกตั๋วที่บริษัทกฎหมายของทิชา แอบชอบทิชาตั้งแต่สมัยที่ทิชามาติวหนังสือให้
เครดิตภาพจาก Ch3 Thailand
เบลล่า ราณี รับบทเป็น ทิชา ทนายความสาวมือทองประจำบริษัทกฎหมายที่มีบอสเบน (อู๋ ธนากร โปษยานนท์) เป็นเจ้าของบริษัท เธอว่าความชนะจนฝีมือเป็นที่กล่าวขวัญ จนกระทั่งคามีเลีย (พิงค์กี้ สาวิกา ไชยเดช) ได้ก้าวเข้ามาเป็นทนายคนโปรดอีกคนของบริษัท สงครามเย็นของทิชากับคามีเลียจึงเริ่มขึ้น เพราะคนที่บอสเบนจะส่งไปเป็นพาร์ตเนอร์หญิงคนแรกของบริษัทรอสแอนด์ฮาร์วีย์มีได้แค่คนเดียว ทิชาจึงมีเดิมพันคือต้องชนะคดีเท่านั้น เธอจึงจะมีโอกาสชนะคามีเลียได้
เครดิตภาพจาก Ch3Thailand
ด้วยความที่ทิชาเป็นสาวทำงานเก่ง เธอจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้ชาย แม่ของทิชาอยากให้เธอเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที นับตั้งแต่ทิชาเจ็บหนักจากแฟนหนุ่มอัยการ เธอก็ไม่มีใครอีก แต่ด้วยความแค้นจากการถูกสลัดรัก ทิชาตั้งใจเหลือเกินที่จะเป็นทนายที่ดี ให้ความยุติธรรมกับลูกความ เพื่อลบคำสบประมาทของแฟนเก่า
เครดิตภาพจาก Ch3Thailand
ในขณะที่ทิชากำลังเคี่ยวกรำกับคามีเลีย ก็มีหนุ่มหน้าใสทนายฝึกตั๋วมาฝึกงานที่บริษัทของเธอ เขาก็คือ คิว (พีค กองทัพ) เด็กม.6 ที่เธอเคยติวเอ็นทรานซ์ให้ คิวแอบรักทิชามาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ตอนนั้นทิชายังคบกับแฟนเก่าอยู่ คิวดีใจมากที่ได้เจอกับทิชาอีกครั้ง เพราะทิชาเป็นไอดอลในการเป็นทนายของเขา
เครดิตภาพจาก Ch3Thailand
เรื่องให้รักพิพากษามีฉากว่าความคดีต่าง ๆ แต่ดูเหมือนจะเน้นคดีหย่าร้าง ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีคดีอื่น ๆ อีกหรือไม่ ในเรื่องความเป็นโรแมนติกคอเมดี้สนุกมากสไตล์ซีรีย์เกาหลี นางเอกจะไม่ค่อยชอบหน้าพระเอก พระเอกก็ขี้แกล้งให้นางเอกหยุดเก็กซะที ดูได้เพลิน ๆ มีปมให้ได้ลุ้นว่านางเอกจะลดกำแพงเรื่องความเหมาะสมเรื่องวัยได้หรือไม่ เพราะตอนนี้นางเอกยังรู้สึกว่าผู้หญิงแก่กว่าผู้ชายรักกันไม่ค่อยเหมาะอยู่ ตอนนี้ผู้เขียนคิดว่าถ้าตอนต่อ ๆ ไปยังเล่าเรื่องการไขคดีในศาลของนางเอกกับนางร้ายได้แบบน่าตื่นเต้น ไม่หลุดธีม ก็น่าจะดูต่อไปเรื่อย ๆ เพราะให้รักพิพากษาเป็นเส้นเรื่องคู่ กลัวใจว่าตอนท้าย ๆ คดีจะหดหาย กลายเป็นลุ้นเรื่องความรักอย่างเดียวเหมือนละครเรื่องอื่น ๆ จุดเด่นของละครคือการว่าความในศาลไม่ควรจะหาย ส่วนพาร์ตโรแมนติกคอเมดี้ทำได้ดีเป็นพื้นฐาน นับว่าเป็นแต้มต่อให้กับละครเรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้าตอนต่อ ๆ ไปรักษามาตรฐานได้เรื่อย ๆ ก็จะเป็นบรรทัดฐานที่ดีของละครไทย และทำให้ได้ฐานแฟนอินเตอร์จาก Netflix เยอะขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ
ขอบคุณภาพปกจาก Ch3 Thailand